ทวี สุรฤทธิกุล
จดหมายรักถึงลุงตู่
เขียนที่ กรุงเทพมหานคร
วันศุกร์ที่ 12 เมษายน 2562
เรียน ลุงตู่ผู้แสนดี
พรุ่งนี้ก็เป็นวันสงกรานต์แล้ว กระผมในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ก็รู้สึกตื่นเต้นยินดีในเทศกาลที่แสนสดชื่นรื่นเริงนี้ ทั้งทางราชการก็ได้ประกาศให้วันนี้เป็นวันครอบครัวและเป็นวันผู้สูงอายุ ตาม อบต.และเทศบาลต่างๆ ก็มีการแจกเงิน เอ๊ย มอบเงินแก่ผู้สูงอายุกันทุกที่ กระผมก็จะได้เอาไปทำบุญทำทาน และขอขอบคุณในความเมตตาของทางราชการมาตามสมควร
กระผมเห็นภาพที่ท่านกับคณะรัฐมนตรีและผู้นำเหล่าทัพ เข้าไปกราบรดน้ำดำหัวและขอพรจากป๋าเปรมเมื่อเช้าวันก่อน เห็นแล้วก็ชื่นใจที่รัฐบาลและผู้ปกครองประเทศชุดนี้ยังมีสัมมาคารวะ มีกตัญญูรู้คุณ แม้ไม่อาจจะเปลี่ยนใจเยาวชนคนรุ่นใหม่ส่วนหนึ่งให้เห็นดีเห็นงามด้วย เพราะพวกเขายังเรียกร้องไม่ให้ผู้คนทั้งหลายเรียกกันและกันว่า พ่อแม่พี่น้อง นัยว่าเป็นระบบศักดินาและล้าหลัง แต่คณะของท่านก็ได้รับคำชื่นชมจากป๋าเปรมว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่โกง (ในขณะที่สายตาป๋าน่าจะชำเลืองไปที่รองนายกรัฐมนตรีร่างป้อมๆ แล้วมองไม่เห็นว่าท่านรองฯใส่นาฬิกาที่ยืมเพื่อนมา) จากนั้นท่านก็ได้ไปดูแลประชาชนที่สถานีขนส่งหมอชิต ในมุมกล้องที่คงจะมีการจงใจถ่ายให้เห็นว่า ท่านต้องเบียดเสียดผู้คนอันเบียดเสียดเยียดยัดนั้นอย่างทุลักทุเล เที่ยวเดินถามสารทุกข์สุกดิบ จะไปไหนจ๊ะ ขอให้เดินทางปลอดภัยนะ มีความสุขๆ จ้า ช่างเป็นภาพที่น่ารักดูแล้วชื่นใจเสียเหลือเกิน รวมความว่าท่านเป็นนายกฯที่สร้างความสุขให้แก่ประชาชนได้ดีจริงๆ
แต่ก็อย่างที่พระท่านว่า มีสุขก็ต้องมีทุกข์ วันนี้ท่านมีความสุข แต่วันต่อไปท่านอาจจะมีความทุกข์ ช่วงวันสงกรานต์ท่านอาจจะมีความสุข แต่หลังวันสงกรานต์ท่านอาจจะพบกับความทุกข์ แม้กระผมจะเชื่อว่าท่านสามารถ ทานทน ได้ทุกสถานการณ์ แต่ก็อดเป็นห่วงในฐานะคนที่รักชอบพอกันมากๆ ไม่ได้ว่า ท่านจะ ทนทาน ไปได้อีกนานเท่าใด
อย่างที่ท่านพูดขอร้องคนไทยผ่านสื่อต่างๆ เมื่อวันที่ไปรดน้ำป๋านั่นแหละ ที่ท่านบอกว่าขอให้ทุกคนเตรียมพร้อม เพื่อร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถวายเป็นพระเกียรติยศด้วยความสงบเรียบร้อย อย่าได้ก่อความวุ่นวาย แต่กระผมเกรงว่าหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ฝ่ายนักการเมืองที่เคยต่อสู้กันวุ่นวายมาก่อนหน้านี้ น่าจะสร้างความวุ่นวายขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ ๙ พฤษภาคม ตามที่ กกต.ได้กำหนดไว้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เปิดสภาไม่ได้ หรือถ้าดันทุรังเปิดสภาไปก่อน แล้วให้เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นการชิมลาง ว่าจะรวมขั้วกันจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ ซึ่งก็อาจจะมีความพยายามดึงดันที่จะดันให้ท่านขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี (ซึ่งท่านประกาศแล้วว่าไม่อยากเป็น ไม่อยากสืบทอดอำนาจ แต่จำเป็นต้องเป็นต่อไป) แล้วพวกเขาก็จะเอาท่าน ขึ้นเขียง กระทำการปู้ยี่ปู้ยำ ใช้ท่านเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งกระผมคิดว่าท่านคงจะรู้ในเรื่องอนาคตเหล่านี้แล้ว
กระผมเชื่อว่า ท่านอาจจะประกาศในวันที่รับตำแหน่งนายกฯว่า ถ้าใคร(ในรัฐบาล)คดโกงแล้วไม่รับผิดชอบ ผมจะลาออกเอง เพื่อขู่ให้นักการเมืองพวกนั้นเกรงกลัว แต่เชื่อเถอะว่านักการเมืองพวกนี้เขาจะแอบหัวเราะในใจ แล้วซุบซิบกันว่า จ้างก็ไม่เชื่อ เพราะเขานึกว่าท่านจะมีสันดานเหมือนเขา คือทนอยู่ไปเรื่อยๆ เพื่อสะสมอำนาจและผลประโยชน์ทั้งหลายนั้น ที่สุดเมื่อท่านลาออกจริงๆ พวกเขาก็ไป อัญเชิญ คนใหม่ขึ้นมาเป็นนายกฯแทนท่าน หรืออาจจะเป็นคนที่อยู่ในพรรคการเมืองเหล่านั้นนั่นแหละ ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ใช่คนดีที่น่ารักและซื่อสัตย์เหมือนท่าน แล้วเขาก็จะมาสร้างความเสื่อมเสียให้กับชาติบ้านเมือง จากนั้นคนทั้งหลายที่เคยเป็นแฟนคลับของท่าน ก็จะพากันโอดครวญว่า เห็นไหมหละ เป็นเพราะลุงตู่ลาออกไป บ้านเมืองจึงถูกปู้ยี่ปู้ยำอย่างนี้ ดังนั้นบางทีแม้ท่านจะเบื่อหรือถูกกดดันอย่างไรก็ตาม ท่านก็อาจจะต้องทนอยู่เป็นนายกรัฐมนตรีนี้ให้นานที่สุด เพื่อไม่ให้เสียแฟนคลับ และไม่ให้ชาติบ้านเมืองถูกกระทำย่ำยี
กระผมกับคนที่รักท่านอีกจำนวนมาก เชื่อว่าท่านเป็น คนมีกรรม ที่ต้องเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำของคนไทย ต้องมาช่วยแบกรับทุกข์ยากของคนไทย ภายใต้สถานการณ์ที่มีภัยคุกคามรอบทิศ ท่านจะหนีหรือลาออกไปก็ไม่ได้ เรียกว่าท่านอาจจะรอดหรือไม่รอดก็ด้วยการนำประเทศฝ่าฟันวิกฤติเหล่านี้ให้ได้ คนไทยและประเทศไทยฝากอนาคตทั้งสิ้นไว้กับท่าน
ในวันสงกรานต์ครั้งนี้ ขอให้เทพเทวาทุกทิศา อำนวยอวยชัยแด่ท่าน ให้พบกับความสำเร็จทุกประการ ข้ามพ้นภัยพาล เป็นหลักบ้านหลักเมือง ให้พบความรุ่งเรือง มีชื่อลือเลื่อง เป็นนายกรัฐมนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตลอดไป ตลอดกาลนานเทอญฯ
ด้วยรักและเป็นห่วงอย่างยิ่ง(#ที่สุดจากหัวใจ)