ชัชวาลล์ คงอุดม เรียน กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สยามรัฐ คุณชัช เตาปูน ตอบจดหมาย เกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้นจนได้ สำหรับอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตรายหรือช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งพี่น้องประชาชนคนไทยจะต้องเดินทางไปกลับภูมิลำเนาบ้านเกิดกันน่าสงสารกับผู้ประสบเคราะห์กรรมจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงต้อนรับปีไก่ปีนี้ เปิดศักราชข้ามมาเพียงวันเดียวคือ วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุรถตู้โดยสารสายจันทบุรี-กรุงเทพฯ ชนกับรถบรรทุกหรือรถปิกอัพที่บรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคันรถเช่นกัน โดยเหตุเกิดขึ้นบนถนนสายแกลง-บ้านบึง จนเกิดไฟลุกไหม้และที่น่าสลดก็คือไฟได้คลอกร่างผู้โดยสารที่มากับรถทั้งสองคันรวมกันแล้วเสียชีวิตทั้งหมด25 ศพ โดยมีผู้รอดชีวิตมาได้เพียง 2 คนเท่านั้น เป็นเรื่องน่าเศร้าใจจริงๆ เปิดศักราชปีใหม่มา นึกว่าจะมีเรื่องดีๆ มีความสุขแก่คนไทยทั้งประเทศ จู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเช่นนี้เกิดขึ้น ซึ่งเท่าที่ได้ดูจากสังคมออนไลน์กัน ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐกันทั้งนั้น ที่ปล่อยให้ผู้โดยสารทั้ง 25 ชีวิต มาจบชีวิตลงเพราะคนคนเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นเลย โดยที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐที่ดูแลและเกี่ยวข้อง ในที่นี้คงไม่ขอระบุว่าเป็นหน่วยงานใด หากแต่ฝากให้ไปคิดกันเองว่า ที่ผ่านมาได้เข้มงวดกวดขันกับผู้ขับขี่รถสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถตู้ รถบัสโดยสารต่างๆมากน้อยขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกใบอนุญาตใบขับขี่หรือต่อใบอนุญาตขับขี่รถก็ตาม ได้เคยมีการตรวจสุขภาพหรือตรวจสอบประวัติการเกิดเหตุในรอบปีของผู้ขับขี่หรือไม่ ไม่ว่าประวัติทางการแพทย์ในเรื่องเกี่ยวกับโรคทางสมอง เช่น เส้นโลหิตตีบ หรือมีอาการของโรคหัวใจหรือไม่ ตลอดจนถึงโรคเบาหวานที่ทำให้สายตาพร่ามัวได้อย่างงี้เป็นต้น หรือแม้แต่ประวัติการดื่มสุรา เราเคยได้มีการสอดส่องกันหรือไม่ ซึ่งปกติในช่วงเทศกาลแน่นอนย่อมหลีกเลี่ยงไม่พ้นกับการที่คนขับเจ้าของวินรถตู้ เจ้าของรถบัสโดยสาร เจ้าของรถบรรทุกขนส่งต่างๆได้เข้มงวดกวดขันกับคนขับที่เข้ากะกันมากน้อยขนาดไหน โดยเฉพาะอาการเมาค้าง หรือมีอาการเป็นไข้ ปวดหัวตัวร้อน หรือแม้กระทั่งการนอนพักผ่อนเพียงพอหรือไม่ ซึ่งสาเหตุการนอนไม่เพียงพอเป็นเรื่องสำคัญมาก และเป็นต้นเหตุของการหลับในและเกิดอุบัติเหตุกันมาก โดยเฉพาะการขับรถข้ามเกาะ ข้ามเลนไปชนประสานงากับรถฝั่งตรงข้ามที่วิ่งสวนทางกันมาบ้าง หรือตกข้างทางไปชนกับต้นไม้บ้างในรอบปีที่ผ่านมา มักจะพบเห็นได้บ่อยครั้ง ซึ่งยังไม่เห็นหน่วยงานของรัฐหน่วยงานใดออกมาดูแลแก้ไข หรือหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้กันเลย หรือแม้แต่มีหน่วยงานที่สำรวจและซ่อมบำรุงเส้นทางอย่างกรมทางหลวง ก็ควรจะมีการสำรวจเส้นทางและซ่อมแซมผิวจราจรอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งเมืองนอกในหลายๆ ประเทศมักจะให้ความสำคัญกับเรื่องของพื้นผิวการจราจรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บ้านเราเดี๋ยวนี้อุบัติเหตุจากการขับขี่เพราะฝนตกถนนลื่นเยอะมาก หรือแม้แต่การขับขี่แล้วตกขอบผิวจราจรที่ชำรุดหรือเป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะรถบรรทุกวิ่งเกินพิกัด จนถนนหนทางพังกัน แล้วขาดการดูแลซ่อมแซมอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ปล่อยทิ้งๆขว้างๆ กัน จนในที่สุดวิบากกรรมก็ตกกับผู้ใช้รถใช้ถนนกันซึ่งต่างจากในต่างประเทศ หากพบเห็นจะต้องรีบดำเนินการซ่อมแซมทันที เพื่อเป็นการป้องกันเหตุล่วงหน้า ไม่ใช่เกิดเหตุกันแล้ว จึงค่อยมาซ่อมแซมดูแลกัน ซึ่งประเทศไทยเรามักจะพบหน่วยงานของรัฐมีการบริหารจัดการเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้เป็นเรื่องน่าเศร้าใจอย่างมาก คนดีบริสุทธิ์ มีอนาคตไกล หลายต่อหลายคนต้องมาประสบเคราะห์กรรมกับเหตุการณ์อุบัติเหตุรถตู้ชนกับรถกระบะอย่างเหตุการณ์ครั้งนี้ บางท่านเป็นนิสิตหมอจุฬาฯ บางท่านกำลังเรียนดอกเตอร์ และบางท่านเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อแม่ที่ฝากผีฝากไข้ไว้ คนเป็นพ่อเป็นแม่กลับต้องมีอันมาสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และเป็นอนาคตกำลังสำคัญของประเทศชาติด้วย น่าเศร้าจริงๆ เพราะฉะนั้นถึงเวลาหรือยังที่ประเทศไทยเราควรจะรื้อปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนนใหม่หมดเสียที ทำให้ครบวงจรไปเลย ไม่ว่าจะเป็นการขาดตกบกพร่องในเรื่องของเนื้อหาสาระของกฎหมายก็ดี ความบกพร่องหรือขาดจิตสำนึกของเจ้าของรถ หรือผู้ขับขี่ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องของการออกใบอนุญาตทั้งผู้ประกอบการขนส่งก็ดี หรือดูแลกำกับในเรื่องของกฎหมายจราจรก็ตามที สมควรจะต้องมีการปรับปรุงใหม่ทั้งระบบ เพื่อให้เกิดแนวทางในการควบคุมดูแลการใช้รถใช้ถนนของผู้ขับขี่ให้เกิดความปลอดภัย และมีจิตสำนึกต่อการตื่นตัวรับผิดชอบต่อชีวิตผู้อื่นในสังคมกัน สุดท้ายอยากจะฝากอีกสักเรื่องหนึ่งถึงท่านนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยากให้ท่านได้เอาจริงเอาจังกับผู้ประกอบการรถสาธารณะ ให้ดูแลเข้มงวดในการรับผู้ขับขี่เข้ามาทำงาน เพราะมีส่วนต่อการรับผิดชอบชีวิตผู้คนที่เป็นผู้โดยสารจำนวนมาก ดังนั้นจำเป็นต้องได้บุคคลที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม ไม่ใช่ติดยาบ้า หรือเมาสุราแล้วมาขับขี่จนเกิดเมาค้าง หรือแม้แต่มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการขับขี่ยวดยานพาหนะ ก็ไม่สมควรจะอนุญาตเข้ามาขับรถตู้ รถบัสโดยสารหรือแม้กระทั่งรถขนส่ง ยันไปถึงรถยนต์ส่วนตัวเสียด้วยซ้ำ หากมีการเคร่งครัดเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก็คงจะช่วยบรรเทาเบาบางปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่หลับในหรือพุ่งข้ามเลนทำนองนี้ลงไปได้บ้าง ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ จาก ผู้โดยสารรถประจำทาง เรียนผู้ใช้นามปากกา "ผู้โดยสารรถประจำทาง" ขออนุญาตตอบจดหมายของคุณนะครับ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถตู้ชนกับรถกระบะทั้ง 25 รายด้วยนะครับ ที่มีอันต้องมาสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป จากอุบัติเหตุครั้งใหญ่ครั้งนี้ก็เชื่อว่าคงจะทำให้ภาครัฐหันมาดูแลใส่ใจกับเรื่องของการหามาตรการความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารรถตู้และรถสาธารณะอื่นๆ กันมากขึ้นทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวผู้ขับขี่ และสภาพความปลอดภัยของรถตู้และรถโดยสารสาธารณะต่างๆ ซึ่งก็คงต้องติดตามกันดูต่อไปครับว่า หน่วยงานรัฐที่กำกับดูแลรถโดยสารต่างๆ เหล่านี้จะมีการออกมาตรการอะไรออกมาดูแลคุ้มครองพี่น้องประชาชนให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้นกว่านี้ เอาเป็นว่า ผมนำจดหมายของคุณที่เขียนมาลงเพื่อผ่านต่อให้ท่านนายกฯ ให้ตามความต้องการของคุณก็แล้วกันนะครับ ด้วยรักและนับถือ เจริญชัย อุดมพาณิชวงศ์ "จากอุบัติเหตุครั้งใหญ่ครั้งนี้ก็เชื่อว่าคงจะทำให้ภาครัฐหันมาดูแล ใส่ใจกับเรื่องของการหามาตรการความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารรถตู้และรถสาธารณะอื่นๆ กันมากขึ้นทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวผู้ขับขี่และสภาพความปลอดภัยของรถตู้และรถโดยสารสาธารณะต่างๆ"