ข่าวจริง ข่าวลวง , ภาพจริง ภาพตัดต่อ กำลังกลายเป็น “อาวุธชั้นดี” ที่ถูกนำมาใช้ในการฟาดฟันกันระหว่าง “นักการเมือง” , ผู้สมัครของแต่ละพรรค ลุกลามบานปลายไปถึง “กองทัพ” ที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือการที่ทุกคน ทุกฝ่ายไม่เพียงเฉพาะกองทัพที่จะสามารถใช้ปฏิบัติการไอโอ สงครามด้านการข่าวเพื่อตอบโต้ หรือรุกไปยังฝั่งตรงข้ามได้เท่านั้น แต่วันนี้สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น กำลังสะท้อนว่าปฏิบัติการไอโอนั้นกำลังกลายเป็น “เครื่องมือ” ได้สำหรับทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายที่จะชิงเปิดเกมรุกกันได้ด้วยกันทั้งสิ้น กรณีเพจ CSI La ได้เผยแพร่ เอกสารลับ เพื่อขออนุมัติ พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้หน่วยขึ้นตรงทั้งหมดทำไอโอ สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้กลายเป็น “น้ำผึ้ง” หยดใหม่ที่ทำให้กองทัพถูกโจมตี พร้อมถูกตั้งคำถามถึงข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร แต่ในขณะเดียวกัน กองทัพเองไม่อาจอยู่นิ่งเฉย เพื่อให้รอ “เวลา” เป็นเครื่องคลี่คลาย ล่าสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. ) รับมอบอำนาจแจ้งความดำเนินคดีกับเพจดังกล่าวต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ทางด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ระบุว่า เรื่องนี้มีตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ดำเนินตรวจสอบอยู่แล้ว ส่วน “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฟันธงชัดเจนว่า “ของปลอม” ! ข้อเท็จจริงกำลังรอการพิสูจน์ ด้วยกระบวนการยุติธรรมสำหรับเอกสารลับที่อ้างเรื่องการใช้ปฏิบัติการไอโอ หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการใช้สื่อโซเชียลที่ต่างฝ่ายต่างมีอยู่ในมือ เพื่อ “ตอบโต้” และ “ขยายผล” รุกคืน ทางฝั่ง “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” หรือคสช. อันจะเชื่อมโยงไปกระทบถึง “พรรคพลังประชารัฐ” ในฐานะพรรคของคสช.โดยปริยาย ทั้งนี้มีแนวโน้มว่า ในระหว่างการเร่งเดินหน้าหาเสียงในช่วงที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่วัน จากนี้ไปจนถึง24 มี.ค.นี้บรรยากาศและปฏิบัติการไอโอของแต่ละฝ่าย จะยิ่งเข้มข้นมากขึ้น จนกลายเป็นการสร้างความสับสน สร้างข้อมูลเท็จ เพื่อหวังช่วงชิง “คะแนนเสียง” ก่อนวันหย่อนบัตรกันจนนาทีสุดท้าย มีรายงานว่า ขณะนี้แทบทุกพรรค ต่างใช้วิธีการ “ตรึงคะแนนเสียง” ในพื้นที่หลักๆ ที่พรรคมีฐานเสียงหนาแน่นและคาดว่าจะได้แต้มต่อ ได้ส.ส.เข้าสภาผู้แทนฯ กันเรียบร้อยแล้ว ส่วนเวลาที่เหลืออยู่อีกไม่กี่วันคือการหาทาง “เฝ้าระวัง” ไม่ให้ฐานเสียงหลักๆของพรรคตนเอง ต้องเผชิญกับ “ความผันผวน” หรือการรุกเข้าประกบ “หัวคะแนน” จนไม่สามารถ “ขยับ” กันได้ออก เท่านั้น !