หน้าฉากการต่อสู้เต็มไปด้วยสีสัน เสียงอึกทึก ครึกโครม บรรดา "แม่ทัพนายกอง" ของพรรคเพื่อไทย เดินสายกันต่อเนื่อง แต่หลังฉาก เบื้องลึก ความฮึกเหิมที่แสดงกันอยู่เบื้องหน้า กลับอยู่ในสถานการณ์ "ไม่สู้ดีนัก" ! การหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งรอบนี้ กำลังกระชั้นเข้ามาทุกขณะ เหลืออีกเพียงไม่กี่วัน หาเสียงของทุกพรรคจะต้องยุติลง เมื่อเวลา 18.00 น.ของวันเสาร์ที่ 23 มี.ค.ทั้งการหาเสียงโดยทั่วไป รวมถึงการหาเสียงผ่านออนไลน์ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย เข้าข่ายแพ้ฟาล์ว ตั้งแต่ยังไม่ทันได้ลงสนาม
ดังนั้นจึงหมายความว่าทุกนาที ทุกชั่วโมงของแต่ละพรรค จึงมีค่าอย่างยิ่ง การปรับกลยุทธ์ เปลี่ยนเกมการเล่น ไปจนถึงการวางแผนปราศรัยเวทีสุดท้าย ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด "กุนซือ"ของแต่ละพรรค จะต้องประเมินกันแล้วว่า อะไรคือ "จุดคุ้มทุน" และควรลงทุน ลงแรงมากที่สุด !
วันนี้สถานการณ์ของแต่ละพรรคการเมือง แทบไม่แตกต่างกัน เพราะต่างต้องประเมินกันชนิดช็อตต่อช็อต ชั่วโมงต่อชั่วโมง และวันต่อวัน เพื่อที่จะตรวจสอบหาจุดแข็งไปจนถึง "ช่องโหว่" ว่าเกิดขึ้นที่ไหน จนกลายเป็น รูรั่วถึงขั้นที่จะทำให้ น้ำเข้ามาในเรือได้ในที่สุด
บางพรรคการเมือง อาจจะมี "กระแส" แต่ยังจำเป็นต้องเร่ง "ยิงกระสุน" เพราะ "คะแนนจริง" ยังไม่ดีพอที่จะวางใจได้ว่าจะสามารถทำแต้ม พาส.ส.เข้าสภาฯได้ตามเป้าหมาย ที่ตั้งเอาไว้ได้จริง !
ข้อมูลลึกจากวงในของพรรคพลังประชารัฐเอง ระบุว่า ยิ่งกระแสของพรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม อย่าง "อนาคตใหม่" ดีวันดีคืน ขณะที่พรรคเองยังต้องพึ่งบริการจาก "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพลังประชารัฐ มาช่วยดึงคะแนนในช่วงสุดท้าย ได้กลายเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจแก่ "บิ๊กคสช."ไม่น้อย
เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม คงไม่ลงมา "กำกับ" เองโดยการเรียกผู้สมัครของพลังประชารัฐ ในบางเขตเลือกตั้ง บางจังหวัดเข้าพูดคุยเป็นการส่วนตัว เรียกว่าจะต้องคุมเข้ม เช็คความพร้อมกันนาทีต่อนาที
ขณะเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทยเอง ในฐานะพรรคการเมืองอันดับหนึ่ง และผู้ท้าชิงกับพรรคพลังประชารัฐ ประกาศ "คว่ำคสช." ก็มีรายงานว่า "คนที่ต่างประเทศ" กำลังจะปล่อยมือ เพราะหนทางสู้แทบมองไม่เห็น "ชัยชนะ" อย่างเบ็ดเสร็จ
ยิ่ง "บทเรียน" ที่เกิดขึ้นกับพรรคไทยรักษาชาติ จนทำให้เกิดผลกระทบตามมายังพรรคเพื่อไทย และพรรคพันธมิตร จนทำให้เกิดปัญหา "เสียงเท"ไปให้กับ " พรรคอนาคตใหม่" ซึ่งไม่ได้ทำให้เกิดผลดีต่อพรรคเพื่อไทย ยิ่งทำให้คนที่ต่างประเทศ เองทำท่าไม่อยากลุ้นหรือคาดหวังอะไรกับพรรเพื่อไทยอีกต่อไป
ขณะที่การเดินสายของแกนนำในพรรคเพื่อไทยเองก็พบว่าต่างคนต่างเดิน และที่สำคัญยังไม่สามารถ "สร้างกระแส" หรือ "คะแนนเสียง" นอกจาก "สีสัน"เพราะจนถึงโค้งสุดท้ายอีกไม่กี่อึดใจ พรรคเพื่อไทย ในฐานะทัพหลวง ที่ยืนประจันกับคสช.ยังไม่มี "บิ๊กเซอร์ไพรส์" ให้คู่แข่งต้องลุ้นเหมือนที่เคย !