การให้สัมภาษณ์ของ "อิทธิพร บุญประคอง" ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อกรณีที่อดีตผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พากันเคลื่อนไหวในภาคสนาม ทั้งการประกาศว่าจะเทคะแนนให้กับพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตย ไปจนถึงการรณรงค์ให้ประชาชน "โหวตโน" นั้นอาจจะมีความผิด ได้กลายเป็นแรงกดดันต่อบรรดาอดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ระลอกใหม่!
"การกระทำใดครอบงำ ชี้นำ ชักจูง จูงใจ สิ่งที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย มีอยู่แน่ๆ ถือเป็นความผิด การกระทำใดที่อาจเป็นความผิด เราต้องตรวจสอบและหากเข้าข่ายก็ต้องดำเนินการ"อิทธิพร ระบุกับสื่อเมื่อถูกซักถามถึงการเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ หลังถูกยุบพรรค
แน่นอนว่าเมื่อ กกต.ส่งสัญญาณออกมาเช่นนี้ ย่อมทำให้แกนนำของพรรคไทยรักษาชาติ ที่กำลังเดินสายเคลื่อนไหวในต่างจังหวัด ต้องเบรคกันตัวโก่งตามมาด้วยหรือไม่ ? หากสิ่งที่พวกเขากำลังดำเนินการอยู่เข้าข่ายที่จพถูกดึงเข้าสู่ "คิลลิ่งโซน" ในที่สุด
ภายหลังจากที่ไทยรักษาชาติ ถูกยุบพรรคโดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่าอดีตแกนนำและอดีตผู้สมัครของพรรคได้ประกาศจุดยืนว่าจากนี้ไปจะเทคะแนน ของผู้สมัครในบางเขต บางจังหวัด ไปให้กับผู้สมัครของพรรคการเมืองที่มีจุดยืนเดียวกัน คือพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย
ไม่ว่าจะเป็น พรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อชาติ พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อธรรม พรรคประชาชาติ รวมถึงพรรคเสรีรวมไทย ที่ล้วนแล้วแต่เป็นพรรคการเมืองที่ยืนอยู่คนละฝ่ายกับพรรคพลังประชารัฐ และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งชัดเจนว่าฝ่ายนี้จะสนับสนุน "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพลังประชารัฐ
ขณะที่อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ กำลังฮึกเหิมเดินหน้าด้วยความมั่นใจว่า ถึงอย่างไร "กระแส"และ "คะแนน" ที่มีอยู่ในมือจะสามารถถ่ายโอนไปเติมให้กับพรรคในเครือข่ายเดียวกันได้ไม่ยาก จนที่สุดแล้วจะกลายเป็น "โจทย์ข้อยาก" ที่ทำให้ทั้งพรรคพลังประชารัฐ และคสช.เองทำงานได้ยากลำบากมากขึ้นแทน
เพราะจนถึงวันนี้ ดูเหมือนว่าพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่มีกระแสที่มากพอจนสร้างความมั่นใจให้กับคสช.ได้ว่า "เครื่องมือ" ทางการเมืองชิ้นนี้ จะทำหน้าที่ผลักดันเป้าหมายให้สัมฤทธิ์ผล เพราะไม่เพียงแต่พรรคพลังประชารัฐ จะต้องเผชิญหน้ากับ "กระแส" ของ "พรรคอนาคตใหม่" ที่สามารถยึดพื้นที่ข่าวนำหน้าแซงพรรคคู่แข่งแล้วเท่านั้น
ยังกลายเป็นว่า พรรคไทยรักษาชาติ ยังคงความ "เฮี้ยน" กลายเป็นพรรคการเมืองที่ไม่ยอมล้มหายตายจากไปได้ง่ายๆ จากสังเวียนการเมืองในรอบนี้ ยิ่งทำให้พรรคพลังประชารัฐและพล.อ.ประยุทธ์ อาจต้องรับมือกับ "ศึกหลายทาง"
การเคลื่อนไหวของอดีตผู้สมัครและแกนนำของพรรคไทยรักษาชาติ ทั้งทางตรงและทางอ้อม หลังถูกยุบพรรค จากนี้ไปกับระยะเวลาที่เหลืออยู่อีกไม่กี่สิบวันข้างหน้า น่าสนใจว่านี่อาจจะกลายเป็นปัญหาใหม่สำหรับพรรคพลังประชารัฐ และพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มากก็น้อย !