ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 โดยกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า ฤดูร้อนปีนี้จะมาเร็วและนานมากกว่าทุกปี ซึ่งอาจยาวนานไปจนถึงราวเดือนพฤษภาคม 2562 อุณหภูมิการเมืองของประเทศก็เดือดไม่แพ้กัน ยิ่งในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ยิ่งดุเดือดเข้มข้นขึ้นทุกขณะ แต่ไม่ว่าจะดุเด็ดเผ็ดมันแค่ไหนเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องคลี่คลายให้ได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ด้วยมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ดี หากโฟกัสไปที่สมรภูมิเลือกตั้งในโลกออนไลน์ ที่เครื่องมือโซเชียลกลายเป็น "อาวุธ"สำคัญในการประหัตประหารคู่ต่อสู้ ส่วนกระแสในโลกโซเชียลจะมีผลขนาดไหน อาจต้องรอผลคะแนนเลือกตั้งหลังปิดหีบบัตรเป็นตัวชี้วัด ทว่านาทีตุลุมบอนนี้ ไม่มีใครฟังใคร โอกาสและจังหวะเปิดเมื่อไหร่ก็รุกไล่กันทันที จนเป็นที่มาที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. เขาตั้งคณะทำงานติดตามเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ตามคำสั่งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ 70/2562 ขึ้นมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการประชุมไปแล้ว 6 ครั้ง ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มี.ค.62 ที่ผ่านมา มีการพิจารณา 106 เรื่อง ที่ประชุมเห็นควรให้ลบเรื่อง และข้อความที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย 88 เรื่อง โดย 24 เรื่อง เป็นเรื่องที่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 73 (5) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นเรื่องหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง อีก 15 เรื่อง เป็นเรื่องที่เข้าข่ายผิดระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้อ 18 วง (3) คือ ข้อห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งโดยใช้ถ้อยคำรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย หรือปลุกระดม และมี 49 เรื่อง ที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (5) และระเบียบ กกต. ข้อ 18 (3) แต่มี 18 เรื่อง ที่คณะทำงานเห็นว่าไม่เข้าข่ายความผิดและไม่ลบ อย่างไรก็ตาม ใน 88 เรื่อง รวม 12 เรื่องที่ก่อนหน้านี้ กกต.ได้มีคำสั่งให้มีการลบภาพ และข้อความหาเสียงไปแล้ว ที่เป็นการโพสต์ข้อความใส่ร้าย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,พรรคอนาคตใหม่, พรรคเพื่อไทย, พรรคไทยรักษาชาติ, พรรคเพื่อชาติ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย และมีการใส่ร้ายป้ายสี ระบุข้อความว่า เผาบ้านเผาเมือง อีกทั้งยังมีโพสต์ที่เรียกร้องให้คว่ำบาตรพรรคพลังประชารัฐด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อความขยะเหล่านั้น เมื่อกกต. พิจารณา แล้วเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการแจ้ง ผู้โพสต์หรือเจ้าของเว็บไซต์ลบข้อความดังกล่าว เมื่อเจ้าของเว็บไซต์ลบก็ถือว่าจบไป แต่ในกรณีความผิดตามมาตรา 73 ของกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งถือว่าเป็นความผิดทางอาญา ที่จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป กระนั้น จากกรณีที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า การเมืองไทยอยู่ในวังวนเดิมๆ การสาดโคลนกันแบบเก่าๆ ย้อนกลับมาอีกครั้ง จนแทบทุกพรรคแปดเปื้อนและเปียกปอนกันไปหมด ฉะนั้นก็ต้องระวังหากเล่นกันเลยเถิดจนไม่เหลือคนดีไว้ให้ประชาชนมีทางเลือกเลย ประชาชนอาจจะลุกขึ้นมาไล่ลงจากเวทีให้หมด