ภาคีเครือข่ายสถานทูตเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน(The Embassy Friends of Road Safety) ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยประเทศอังกฤษ และขับเคลื่อนโดยประเทศสมาชิก 16 ประเทศ ประกอบด้วย สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ออสเตรเลีย ออสเตรีย เบลเยียม แคนาดา ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮังการี ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ โปรตุเกส สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์และสหรัฐอเมริกา ที่ ทำเนียบเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย บนหลักการที่พวกเขามีความห่วงใยต่อประเด็นความปลอดภัย ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทยโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ ที่ในปี 2561 ที่ผ่านมาแผนกกงสุลของสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษได้รับเรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนนถึง 68 ราย ดร.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยและทั่วโลกมีคนจำนวนมากที่กำลังจะเสียชีวิตจากเหตุปะทะของการจราจรซึ่งในรายงานสถานการณ์ด้านความปลอดภัยบนท้องถนนเมื่อปี 2561 พบว่า กว่า 1.3 ล้านคน เสียชีวิตจากเหตุปะทะจากการจราจรบนท้องถนนทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็น สถานที่อันตรายมากที่สุดในการขับขี่รถเป็นอันดับที่ 8 ของโลก และ 3 ใน 4 ของการเสียชีวิตคือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประชุมภาคีเครือข่ายสถานทูตเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนได้แสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนความปลอดภัยบนท้องถนนผ่านการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเน้นความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวผู้ใช้รถจักรยานยนต์ และการเช่า รถจักรยานยนต์ เนื่องจากที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทยแบบอิสระและนิยมเลือกเช่ารถจักรยานยนต์ในการเดินทาง ซึ่งบางครั้ง มีอุบัติเหตุขึ้น ในส่วนของกระทรวงคมนาคมของไทย จึงมีมาตรการความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะการให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย การบังคับใช้กฎหมาย จำกัดความเร็วและการออกใบอนุญาตขับขี่สากลเพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ไทยรั้งอันดับ 8 ของโลก ถูกยกให้เป็นสถานที่อันตรายมากที่สุดในการขับขี่รถ ถือเป็นเรื่องน่าตกใจ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินเลยจากความเป็นจริงนัก กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องนำมาบูรณาการปัญหาร่วมกันอย่างเข้มแข็งและจริงจัง เพื่อให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ และมีการบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เราเห็นว่า การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเน้นความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวผู้ใช้รถจักรยานยนต์ และการเช่ารถจักรยานยนต์ เป็นสิ่งที่ดี ในขณะเดียวกัน สำหรับคนไทยเองก็ต้องสร้างจิตสำนึกต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนร่วมกันด้วย