การวางโปรแกรมให้กับ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็น “นายกรัฐมนตรี” ของพรรคพลังประชารัฐ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียง ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ ที่จังหวัดนครราชสีมา ได้กลายเป็น “แรงกระเพื่อม” ระลอกใหม่ที่กำลังซัดเข้าใส่ทั้งพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นตัวพล.อ.ประยุทธ์ ไปจนถึง “พรรคคู่แข่ง” ในสนาม เพราะไม่ว่า ในวันที่ 10 มี.ค.จะได้เห็นบิ๊กตู่ ขึ้นเวทีปราศรัย หรือไม่ก็ตาม แต่ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นย่อมมีผลทางใดทางหนึ่ง อย่างแน่นอน สถานการณ์ของพรรคพลังประชารัฐในช่วงใกล้ถึงวันหย่อนบัตรลงคะแนน 24 มี.ค.นี้ กลับพบว่า “กระแส” ของพรรคยังไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควรจะเป็นไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะนี้เมื่อ “ฝ่ายตรงข้าม” กำลังเพลี้ยงพล้ำ ทั้ง “ไทยรักษาชาติ” ที่กำลังรอการชี้ชะตาในวันที่ 7 มี.ค.นี้โดยศาลรัฐธรรมนูญ (ศร.) ในคดียุบพรรค ซึ่งแนวโน้มที่ออกมาไม่สู้จะดีนัก เช่นเดียวกับ พรรคเพื่อชาติ พรรคสาขาของพรรคเพื่อไทยเอง ที่ถูกวางเกมให้เป็นพรรคขนาดเล็ก ดำเนินภารกิจเก็บกวาดคะแนนเสียง เจาะฐาน รักษาเสียงของ “คนเสื้อแดง” แต่แล้ววันนี้พรรคเพื่อชาติ กำลัง “ติดกับดัก” ของตัวเอง เมื่อมีคนในพรรคไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต). ที่จังหวัดนครราชสีมา ว่าขอลาออกจากพรรค ด้วยเพราะรับไม่ได้กับความไม่ถูกต้องของการจัดวางตัวผู้สมัครลงปาร์ตี้ลิสต์ แต่แล้วกลับกลายเป็นว่าเวลานี้ พรรคพลังประชารัฐ จะสามารถ “ตีตื้น” มีกระแสแรงได้มากพอ ที่จะกวาดเก้าอี้ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็ยังกลายเป็นเรื่องที่ห่างไกลจาก “ความจริง” ! ความพยายามในการสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีปราศรัยให้กับผู้สมัครที่โคราชของพลังประชารัฐนั้น ทางหนึ่งนี่อาจเป็นเหมือน “ไม้ตาย” ที่พรรคต้องการนำมา “ปลุกกระแส” ในช่วงโค้งสุดท้าย เพราะหลังจากที่ก่อนหน้านี้บรรดา “แกนนำ” ของพรรคต่างพากันเดินสายหาเสียง จุดประเด็นกันไม่เว้นแต่ละวันล่วงหน้าไปแล้วพักใหญ่ แต่นาทีนี้ เห็นทีพรรคคงต้องพึ่ง “คะแนนนิยมนายกฯ” เข้ามาช่วยเสริมทัพ ทั้งนี้ยังต้องไม่ลืมว่าการดึง พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอยู่ในสถานะ “ขุน” ลงมาเล่นเช่นนี้ ทางหนึ่งอาจกลายเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงให้ตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ อย่าลืมว่า “สถานะ” ของตัวพล.อ.ประยุทธ์ กำลังถูกหลายฝ่าย “ตีความ” ว่าจะขัดต่อคุณสมบัติผู้ที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ และยิ่งเมื่อพรรคพลังประชารัฐ มีแผนที่จะดึงพล.อ.ประยุทธ์ ลงมาเล่นในภาคสนาม ด้วยการให้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยที่ตัวบิ๊กตู่เอง “สวมหมวกหลายใบ” ทั้ง นายกฯ-หัวหน้าคสช.และแคนดิเดตนากยฯของพลังประชารัฐ โอกาสที่ “ขุน” จะถูกเพ่งเล็ง และโดนถล่มด้วยทั้ง “ข้อกฎหมาย”ว่าด้วยความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 ผสมปนเปไปกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าด้วยการสร้างความได้เปรียบ เหนือคู่แข่ง ในทุกประตู เช่นนี้ มีแต่จะทำให้ แคนดิเดตนายกฯ ต้องเผชิญกับสภาพที่บอบช้ำ ก่อนกำหนด !