พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านปราศรัยเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชั่นได้ประทับใจมวลชนมาก และการทำงานด้านนี้ของรัฐบาลก็กำลังเดินหน้าได้ใจประชาชนมากพอสมควร แต่ในสังคมก็มีเรื่องราวปัญหามากมาย มีเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวพันถึงระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่นเรื่องเหมืองทองของทุนจากออสเตรเลีย มีเรื่องเล็กที่เกี่ยวพันกับครอบครัวไม่กี่ครอบครัว
เรื่องเล็ก ๆ นั้น คงจะไม่มีทางรบกวนไปถึงนายกรัฐมนตรีหรอก
แต่ว่าเรื่องเล็ก ๆ บางเรื่องถ้ากระทบกระเทือนถึง “หลักแนวคิด” ทางสังคม ก็น่าจะต้องรบกวนร้องเรียนให้ท่านนายกรัฐมนตรีได้รับทราบด้วย
รัฐบาลนี้มียุทธศาสตร์สร้าง “บริษัทประชารัฐ” ซึ่งคล้ายคลึงกับงานส่งเสริม “สหกรณ์” ซึ่งทำกันมานมนานแล้ว จนถึงขั้นต้องมีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และมีชื่อ “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” เพื่อยืนยันว่ารัฐส่งเสริมกิจการสหกรณ์จริงจัง
ถ้ารัฐเห็นว่า “สหกรณ์” ไม่มีทางแข่งขันกับเอกชน อยู่ไปก็มีแต่ขาดทุน หรือเห็นว่าสหกรณ์มีคอร์รัปชั่นกันมาก ก็น่าจะยุบกรมส่งเสริมสหกรณ์และเปลี่ยนชื่อกระทรวงเสียใหม่ ไปใช้ชื่อ “กระทรวงเกษตรและบริษัทประชารัฐ”ก็ได้
แต่เราก็มั่นใจว่ารัฐจะไม่ทอดทิ้งหลักแนวคิดสหกรณ์เป็นแน่
อย่างไรก็ตาม เมื่อเราเห็นข่าวเล็ก ๆ จากรายการ “ข่าวสามมิติ” สี่ทุ่มครึ่งเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ ๑๘ ธันวาคม แล้วก็อดห่วงไม่ได้ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีหลักแนวคิดเรื่องสหกรณ์อย่างไรกันแน่
ต้นตอของเรื่องคือ สหกรณ์กรุงเทพดำริว่าธุรกิจของร้านสหกรณ์กรุงเทพสาขาปิ่นเกล้าที่อยู่เยื้อง ๆ กับห้างพาต้าปิ่นเกล้านั้นร่วงโรย คงจะแข่งขันกับห้างใกล้เคียงไม่ได้ จึงจะให้เช่าที่ดินกว้างหกไร่กว่าแก่บริษัทเอกชนที่ทำธุรกิจโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเช่าเป็นเวลา 30 ปี ในราคา 30 ล้านบาท คิดแล้วก็เป็นราคาไม่ถึงหนึ่งแสนบาทต่อเดือน จึงจัดประชุมสมาชิกสหกรณ์เพื่ออนุมัติ เมื่อกลางปีนี้ ซึ่งก็ผ่านความเห็นชอบไปอย่างเฉียดฉิว สมาชิกสหกรณ์ฯที่เห็นว่าการให้เช่าในราคานี้เป็นความเสียหายสำหรับสหกรณ์ฯจึงคัดค้านและยื่นหลักฐานร้องเรียนถึงกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้ตรวจสอบว่าการประชุมฯรอบนั้นไม่ชอบพามากล ซึ่งกรมสหกรณ์ฯก็ตรวจสอบแล้วว่า มันผิดระเบียบจริง และให้ยกเลิกการจะทำสัญญาเช่าที่ดิน
แต่ต่อมาทางผู้บริหารก็จัดประชุมอีกรอบหนึ่ง แล้วอนุมัติเห็นชอบให้เอกชนมาเช่าที่ดินได้
แต่ตามข่าว “สามมิติ” ก็ว่า ยังมิได้มีการทำสัญญาเช่าแต่อย่างใด
เรื่องจึงยังคาใจชาวบ้านที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯอยู่ เพราะร้านข้าวแกง-ก๋วยเตี๋ยว ในตึกสองคูหาติดกับสหกรณ์กรุงเทพสาขาปิ่นเกล้านั้น ราคาค่าเช่าตึกสองห้องคือเดือนละหนึ่งแสนบาท ชาวบ้านรู้สึกเสียดายอย่างยิ่งถ้าผู้บริหารสหกรณ์จะให้โรงพยาบาลเอกชนมาเช่าที่ใหญ่โตในราคาเดือนละไม่ถึงแสนบาทเป็นเวลาสามสิบปี
แก่นของปัญหาที่ชาวบ้านเขาร้องเรียนมิได้อยู่ที่จะให้เอกชนเช่าที่ดินได้หรือมิได้ หรือว่าสมาชิกฯที่เช่าพื้นที่ขายของอยู่สี่ห้ารายจะไม่มีที่ขายของ แต่แก่นปัญหาอยู่ที่การตั้งราคาค่าเช่ามันเหมาะสมหรือไม่
เรื่องนี้ก็คงไม่มีวันไปถึงท่านประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีหรอก เพราะถ้าสอบถามระดับกระทรวง ก็อาจจะมีคำชี้แจงว่า เป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารสหกรณ์ฯกับผู้เช่าพื้นที่ในสหกรณ์บางรายเท่านั้น สหกรณ์แข่งขันกับเอกชนไม่ได้ สมควรให้โรงพยาบาลเอกชนมาเช่าที่ดินสร้างอาคาร แล้วจะให้สหกรณ์มีสิทธิ์ขายสินค้าในโรงพยาบาลนั้น
แต่การ “เซ้ง” ที่ดินของสหกรณ์สามสิบปีในราคาสามสิบล้านนั้นโดยผ่อนชำระ ด้วยเหตุผลว่าสหกรณ์แข่งขันกับธุรกิจเอกชนไม่ได้นั้น โดยหลักการเป็นการทำลาย “อุดมการณ์” ของสหกรณ์อย่างสิ้นเชิง
ถ้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะสนับสนุนเรื่องนี้ ก็ขอให้ตัดคำว่า “สหกรณ์” ทิ้งเสียเถิด