เสือตัวที่ 6
ห้วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน คนในพื้นที่ปลายด้ามขวานของไทย ล้วนมีความตื่นตัวทางการเมืองอยู่ในระดับต้นๆ ของประเทศไทย ความตื่นตัวทางการเมืองนี้ ถูกสร้างมาตั้งแต่อดีต เพื่อหวังจะส่งตัวแทนของคนในพื้นที่ เข้ามาใช้อำนาจรัฐแทนตน ทั้งยังช่วยปกป้องรักษาและให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ ตลอดทั้งสิ่งที่ต้องการของคนในพื้นที่แห่งนี้เสมอมา การเลือกตั้งผู้แทนในการปกครองท้องถิ่น ก็มีสัดส่วนของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกผู้แทนของตนอยู่ในระดับที่สูงไม่แพ้พื้นที่อื่นใดของประเทศ และนั่นจึงเป็นส่วนหนึ่งของการปกครองตนเองที่รัฐและผู้ที่เกี่ยวข้อง พึงตระหนักรู้และให้ความจริงในประเด็นนี้ต่อประชาชนคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ ให้รับรู้เข้าใจให้ดีว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นเหล่านั้น ก็คือการกระจายอำนาจการดูแลกันเองของรัฐที่มีให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่อย่างเต็มที่ เหล่านั้นคือการให้อิสระในการเลือกผู้แทนของกลุ่มตนที่คนในพื้นที่เห็นว่า ตัวแทนของพวกเขาจะเข้ามาใช้อำนาจรัฐในการรักษาผลประโยน์และสิ่งที่กลุ่มตนต้องการ
ดังจะเห็นได้ว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นและในระดับชาติที่เรียกกันว่าผู้แทนราษฎรนั้น มีอิสระอย่างเต็มที้ในการเลือกพวกของตนเข้ามาร่วมในการใช้อำนาจรัฐทั้งในระดับท้องถิ่นและในระดับชาติ ทั้งยังเป็นการส่งผู้แทนของตนเข้ามาร่วมออกกติกา หรือที่เรียกว่าเทศบัญญัติ ในฐานะสมาชิกสภาเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบล หรือกฎหมายระดับประเทศ ในฐานะที่เป็นสมาชิกผู้แทนประชาชน (สส.) ได้อย่างอิสรเสรีโดยไม่มีข้อจำกัดในการส่งผู้แทนของตนเข้ามาสมัครรับเลือกตั้งแต่ประการใด เหล่านี้คือการปกครองตนเองรูปแบบหนึ่งที่รัฐมอบให้พี่น้องในพื้นที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และนั่นคือประเด็นสำคัญที่ส่งผลให้พี่น้องชาวไทนมุสลิมในพื้นที่ปลายด้ามขวาน มีความตื่นตัวทางการเมืองในระดับสูงทั้งการเมืองท้องถิ่นและการเมืองในระดับชาติอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้น ช่วงเวลาของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายในพื้นที่ตลอดห้วงเวลานี้ จึงมีความคึกคักไม่แพ้การหาเสียงของบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่อื่นใดของประเทศ แม้จะมีข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่มักกล่าวอ้างเสมอมาว่า พี่น้องผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งในพื้นที่แห่งนี้ จะมีระดับการศึกษาน้อยและคุณภาพการศึกษาต่ำกว่าในพื้นที่อื่นของประเทศ หากแต่พี่น้องประชาชนในพื้นที่เหล่านั้น กลับมีความตื่นตัวในการใช้สิทธิทางการเมือง เพื่อเลือกตัวแทนที่เขาชื่นชอบอยู่ในระดับสูงกว่าพื้นที่ส่วนอื่นของประเทศนี้อย่างสำคัญ
นั่นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ระดับการศึกษาตลอดจนตัวชี้วัดคุณภาพการศึกษาของรัฐ ไม่มีความสัมพันธ์กับความตื่นตัวทางการเมืองของพี่น้องประชาชนในพื้นที่แห่งนี้แต่ประการใด ในประเด็นนี้ จึงน่าจะวิเคราะห์ให้เห็นได้ว่า พี่น้องประชาชนในพื้นที่กำลังแสวงหาอำนาจรัฐ เพื่อการดูแล ปกป้อง และให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ที่คนในพื้นที่ควรได้รับ สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ว่า คนในพื้นที่ต่างตระหนักรู้ว่า การได้มาซึ่งอำนาจรัฐทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ จะเป็นหนทางสำคัญในการบรรลุเป้าหมายปลายทางสุดท้ายที่แท้จริงของพวกเขา ซึ่งนั่นก็คือการปกครองกันเองตามวิถีที่คนในพื้นที่ต้องการ
และในกระบวนการเลือกตั้งระดับชาติที่กำลังขยับตัวเข้ามาในห้วงนี้ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การก่อเหตุร้ายในพื้นที่มีแนวโน้มที่จะบรรเทาเบาบางลง ด้วยห้วงเวลานี้ กลุ่มคนผู้มีอิทธิพลในการขับเคลื่อนกระแสของการต่อสู้กับรัฐ กำลังขับเคี่ยวกันเอง ในการช่วงชิงชัยชนะจากการเลือกตั้ง 24 มี.ค.62 นี้ ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนที่อาสาเข้ามาสมัครรับเลือกจากประชาชนส่วนใหญ่ เป็นผู้มีอิทธิพลในการกำหนดชะตากรรมของเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงในพื้นที่ และบ่งชี้ได้ว่า กลุ่มคนเหล่านี้ มีอยู่ด้วยกันหลายกลุ่ม ที่ต่างฝ่ายต่างพยายามช่วงชิงอำนาจรัฐตามที่ระบุไว้ในระบบกฎหมายของรัฐในนามพรรคการเมืองที่มีหลากหลายกลุ่มหลายพรรคในขณะนี้ และด้วยประเด็นนี้ จึงชี้ว่า กลุ่มคนที่ทรงอิทธิพลในพื้นที่ปลายด้ามขวานของไทย ยังมีการช่วงชิงอำนาจรัฐ และชิงการนำกันเองเพื่อการต่อสู้กับรัฐอย่างเห็นได้ชัด
ห้วงเวลานี้ พรรคการเมืองหลากหลายพรรคดังกล่าว จึงมุ่งความพยายามไปที่ชัยชนะฝ่ายคู่แข่งที่กำลังต่อสู้ทางการเมืองในระบบกันเองอยู่ในขณะนี้ เหตุรุนแรงในห้วงเวลก่อนการเลือกตั้ง จะอยู่ในระดับที่ไม่หวือหวา โหดร้ายอย่างบางช่วงเวลาที่เคยเกิดขึ้น และเมื่อใดที่ผลการเมือกตั้งครั้งใหญ่จบลง ก็เชื่อมั่นได้ว่า กลุ่มที่เป็นฝ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีส่วนในการขับเคลื่อนการต่อสู้ด้วยความรุนแรงต่อไป ซึ่งนั่น จะทำให้สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่กลับมาเรียกร้องความสนใจของสังคมอีกห้วงเวลาหนึ่ง ในขณะที่กลุ่มที่ชนะการเลือกตั้ง จะพยายามผลักดันกฎหมาย ออกนโยบายที่จะเกื้อกูลกับการบรรลุเป้าหมายปลายทางสุดท้ายของพวกเขาอย่างเข็งขัน
หากแต่หน่วยงานระดับนโยบายของรัฐ ควรจะได้ตระหนักโอกาสทองของช่วงเวลาที่คลื่นลมสงบ และเป็นบรรยากาศที่ดีในการใช้สิทธิเลือกตั้งตัวแทนของพี่น้องประชาชนเข้ามาใช้อำนาจรัฐตามรัฐธรรมนูญไทยฉบับปัจจุบัน ใช้โอกาสในบรรยากาศของการตื่นตัวทางการเมืองของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ให้เห็นและเข้าใจรับรู้ว่า การเลือกตัวแทนของตนเข้าไปใช้อำนาจรัฐ เป็นหนทางสำคัญประการหนึ่งในการแก้ปัญหาและพัฒนาท้องถิ่นของตน ตามแนวทางสันติวิธีที่รัฐได้หยิบยื่นให้พี่น้องทุกคนในพื้นที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว และต้องให้ความจริงที่ว่า ความตื่นตัวทางการเมืองตามแนวทางสันติวิธีอย่างนี้เท่านั้น จะเป็นหนทางที่จะได้มาซึ่งวิถีชีวิตที่ทุกคนในพื้นที่ต้องการ และใช้ความตื่นตัวทางการเมืองของพี่น้องประชาชนนพื้นที่เหล่านี้ กดดัน ต่อต้าน ปฏิเสธความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น จากกลุ่มคนที่สูญเสียผลประโยน์จากการเลือกตั้งหนนี้ให้เป็นจริงในที่สุด