เศรษฐกิจไทยกำลังย่างเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ หลังศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่าปี 2568 มีโอกาสเติบโตได้ในกรอบ 2.0–2.5% จากแรงส่งของการบริโภคในประเทศที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวชัดเจน โดยเฉพาะหากรัฐบาลเดินหน้าโครงการ “คนละครึ่ง” ในไตรมาสสุดท้ายของปี การอัดฉีดงบประมาณเฟสแรก 25,000 ล้านบาทจะสร้างการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจได้อย่างน้อย 70,000–100,000 ล้านบาท และคาดว่าจะทำให้ GDP ไตรมาส 4 โตเพิ่มอีก 1–2% เมื่อรวมทั้งปี โอกาสเห็นเศรษฐกิจขยายตัวแตะ 2.5% จึงไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง
สิ่งที่น่าสนใจคือโครงการ “คนละครึ่ง” ไม่ได้กระทบแค่ตัวเลข GDP แต่ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคทันที เงินที่อัดเข้าสู่ระบบจะถูกใช้เต็มวงเงินโดยเฉพาะในกลุ่มรายได้น้อย ขณะที่ร้านค้าปลีกและบริการในพื้นที่จะเร่งสต็อกสินค้าเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น นี่จึงเป็นโอกาสทองของธุรกิจทุกขนาดที่จะออกแบบกลยุทธ์ดักกระแสกำลังซื้ออย่างแม่นยำ โดยเฉพาะในโลกดิจิทัลที่การจับจังหวะให้เร็วกว่าใครคือกุญแจสำคัญ หากภาครัฐขยายโครงการสู่เฟส 2 ในปี 2569 ด้วยเม็ดเงินเพิ่มเติมอีก 100,000–150,000 ล้านบาท โมเมนตัมทางเศรษฐกิจจะยิ่งต่อเนื่อง ทำให้ปีหน้า GDP มีโอกาสขยับแตะระดับ 3% ได้ไม่ยาก
ในอีกมุมหนึ่ง การคาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยนโยบายอีกหนึ่งครั้งในปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ในแดนติดลบ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการลงทุน นักการตลาดและผู้ประกอบการสามารถใช้จังหวะนี้ขยายการลงทุนด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และเทคโนโลยี AI เพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน เพราะเมื่อกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของผู้บริโภคพร้อมใช้ การดึงดูดลูกค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มของตัวเองก่อนย่อมสร้างข้อได้เปรียบอย่างมหาศาล
ดังนั้นจึงต้องเร่งวางแผนรับแรงกระตุ้นจาก “คนละครึ่ง” ด้วยกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ ทั้งการออกโปรโมชั่นเชื่อมโยงสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าที่ใช้คนละครึ่ง การใช้ Data Analytics วิเคราะห์พื้นที่ที่มีการใช้สิทธิสูงเพื่อทำแคมเปญแบบ Hyperlocal Marketing และการสร้างคอนเทนต์สั้นที่กระตุ้นให้เกิดการซื้อทันทีบนโซเชียลมีเดีย ขณะเดียวกัน การพัฒนา Customer Experience ให้ไร้รอยต่อก็สำคัญไม่แพ้กัน ตั้งแต่การรองรับการชำระเงินผ่าน e-Wallet ได้หลายช่องทาง การใช้ AI Chatbot ตอบคำถามลูกค้าแบบทันใจ ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์ O2O ที่ผสานโลกออนไลน์กับออฟไลน์อย่างสมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องอาจต้องคิดเผื่อไว้ก็คือ บรรดาผู้ประกอบการร้านค้าที่ไม่ต้องการเข้าสู่ระบบภาษี และปฏิเสธการเข้าร่วมโตรงการคนละครึ่ง จะมีแต่ผู้ซื้อแต่ไม่มีผู้ขายอาจจะไม่ได้ผลตามเป้าหมายที่ต้องการ