เสือตัวที่ 6
สถานการณ์ทางการเมืองระดับประเทศที่กำลังอ่อนไหวในเสถีรภาพของรัฐในขณะนี้ย่อมส่งผลต่อกระบวนการแก้ปัญหาความขัดแย้งเพื่อนำสันติสุขมาสู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ปลายด้ามขวานอย่างมีนัยสำคัญ ความไม่มั่นคงของรัฐบาลย่อมส่งผลให้กระบวนการแก้ปัญหาระดับพื้นที่ต้องหยุดชะงัก ในทางกลับกันสภาวะดังกล่าวจะส่งผลดีให้ขบวนการต่อสู้แย่งชิงอำนาจรัฐให้มีพลังมากขึ้นเป็นทวีคูณ นอกจากหน่วยงานระดับพื้นที่ที่มี กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ต้องขับเคลื่อนการต่อสู้กับขบวนการร้ายแห่งนี้ต้องทำได้เพียงแค่ประคับประคองสถานการณ์ในพื้นที่ให้ทรงตัวอยู่ได้เท่านั้น อันเป็นยุทธศาสตร์การตั้งรับและถอยร่นต่อการรุกไล่ของขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐที่ถาโถมเข้าใส่ด้วยการใช้อาวุธเพื่อควบคุมอำนาจการปกครองในพื้นที่ ควบคู่กับกระบวนการบ่มเพาะความเกลียดชังจากรัฐให้เข้มข้นและขยายไปในวงกว้างในทุกอณูของสังคมท้องถิ่นได้อย่างทรงพลัง
ในขณะเดียวกัน ความสั่นคลอนของรัฐบาลส่งผลให้กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขหยุดชะงักลงอย่างน่าเสียดาย และที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่แต่งตั้งคณะพูคุยเพื่อสันติสุขอย่างเป็นทางการเพื่อขับเคลื่อนการพูดคุยกับตัวแทน BRN นั่นย่อมทำให้เกิดความคลุมเครือในมิติของการพูดคุยระหว่างกันอันเกิดจากรัฐเองที่ไม่ชัดเจน ทั้งที่กระบวนการพูดคุยสันติสุขเป็นส่วนสำคัญประการหนึ่งในการได้มาซึ่งการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนฝ่ายเห็นต่างกับรัฐผู้ปกครองให้สามารถแสวงหาทางออกร่วมกันได้โดยสันติวิธี หากแต่กระนั้น กระบวนการพูดคุยสันติสุขที่ใช้การเจรจาต่อรองที่มีประสิทธิภาพและทรงพลังระหว่างรัฐกับแกนนำฝ่ายเห็นต่างที่มีกลุ่ม BRN เป็นตัวแทน ย่อมต้องประกอบไปด้วยความเหนือกว่าทางด้านการใช้อาวุธที่รัฐต้องจำกัดการใช้อาวุธของกองกำลังในขบวนการร้ายแห่งนี้ให้ยอมจำนนให้ได้เสียก่อนเป็นลำดับแรก ด้วยกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยข้อเท็จจริงแล้วก็คือ กระบวนการเจรจาต่อรองบนโต๊ะเจรจาเพื่อการยุติสถานการณ์ความขัดแย้งและความรุนแรงระหว่างรัฐกับตัวแทนของกลุ่มต่อสู้เพื่อแย่งยึดอำนาจรัฐที่รัฐต้องเข้าใจศาสตร์อันลึกซึ้งของการเจรจาต่อรองที่มีประสิทธิภาพ
ศาสตร์อันลึกซึ้งของพลังการเจรจาต่อรองที่มีประสิทธิภาพนั้น รัฐต้องเข้าใจในหลักการพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จในการเจรจาต่อรองอย่างเปิดเผยว่า ขึ้นอยู่กับความได้เปรียบในพื้นที่ความขัดแย้งที่มีการต่อสู้กันโดยเฉพาะการต่อสู้ด้วยอาวุธสร้างความโหดร้ายรุนแรงระหว่างคู่ขัดแย้งนั้นๆ ซึ่งโดยหลักการพื้นฐานของการเจรจาต่อรองอย่างเปิดเผยบนโต๊ะเจรจา ผู้ที่จะมีอำนาจเหนืออีกฝ่ายหนึ่งจนสามารถโน้มนำและกำหนดกฎเกณฑ์การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ การวางเงื่อนไขต่างๆ ที่ฝ่ายเห็นต่างต้องยอมรับเงื่อนไขต่างๆเหล่านั้นโดยดุษฎี และฝ่ายที่มีอำนาจต่อรองสูงกว่าจะได้เปรียบในพื้นที่ความขัดแย้งนั้นโดยเฉพาะการได้เปรียบในมิติของการใช้กำลังอาวุธเข้าต่อสู้กัน ซึ่งกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างผู้แทนคณะพูดคุยของรัฐบาลกับผู้แทนคณะพูดคุยของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐก็อยู่ในหลักการพื้นฐานดังกล่าวข้างต้นเช่นเดียวกัน ด้วยศาสตร์ของการเจรจาต่อรองที่มีหลักการพื้นฐานดังกล่าว ทำให้เห็นว่าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้จะไม่สามารถขับเคลื่อนการพูดคุยกับตัวแทนกลุ่ม BRN บนโต๊ะการพูดคุยไปสู่ความสำเร็จตามเป้าประสงค์ของรัฐได้โดยการมุ่งกระบวนการพูดคุยสันติสุขเพียงลำพังอย่างเดียวโดยไม่สนใจองค์ประกอบหรือปัจจัยด้านอื่นๆ ด้วยได้ หากแต่มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย จะต้องบูรณาการในองค์ประกอบของปัจจัยด้านอื่นๆ ร่วมกับกลไกของรัฐที่ปฏิบัติงานแก้ปัญหาปลายด้ามขวานทุกด้านและทุกระดับโดยเฉพาะกลไกของรัฐที่ต้องสามารถควบคุมสถานการณ์การใช้อาวุธก่อความรุนแรงได้โดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างแท้จริง
การที่รัฐสามารถควบคุมสถานการณ์การใช้อาวุธก่อความรุนแรงได้โดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างแท้จริงนั้น จะส่งผลให้กลุ่มขบวนการต่อสู้เพื่อแย่งยึดอำนาจรัฐเหล่านั้น เกิดความคลอนแคลนในศักยภาพการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธ ขาดพลังในการต่อสู้ด้านอื่นๆ ในภาพรวมโดยเฉพาะการเจรจาต่อรองกับรัฐอันเกิดจากความถดถอยทางยุทธศาสตร์อย่างเห็นได้ชัดและกลุ่มสมาชิกของกลุ่มขบวนการร้ายในหลากหลายกลุ่มจะเกิดความลังเลและระส่ำระสาย อันจะเป็นผลให้โครงสร้างของกลุ่มขบวนการต่อสู้เพื่อแย่งยึดอำนาจการปกครองของรัฐเกิดความอ่อนแอลง จนนำไปสู่การที่รัฐมีอำนาจเหนือและมีความได้เปรียบของรัฐในพื้นที่ในทุกด้าน การมีอำนาจเหนือของรัฐที่มีต่อฝ่ายขบวนการร้ายแห่งนี้โดยเฉพาะความเหนือกว่าในการต่อสู้ด้วยอาวุธที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างชัดเจนย่อมจะนำมาซึ่งอำนาจเหนือฝ่ายขบวนการร้ายได้ในมิติอื่นๆ ด้วยในที่สุด และแน่นอนว่าจะเชื่อมโยงไปสู่การที่รัฐจะได้เปรียบในการเจรจาต่อรองเพื่อสันติสุขกับแกนนำขบวนการ BRN ที่รัฐจะสามารถยื่นเงื่อนไขใดๆ ที่เป็นประโยชน์ของรัฐได้มากขึ้นโดยที่ฝ่ายขบวนการร้ายแห่งนี้ไม่อยู่ในวิสัยที่จะต่อรองใดๆ ได้ ด้วยการที่รัฐมีอำนาจการต่อรองที่สูงกว่าขบวนการเห็นต่าง และเมื่ออยู่ในสภาวะอย่างนั้น จึงเป็นไปได้สูงว่าผู้นำของกลุ่มขบวนการต่อสู้เพื่อแย่งยึดอำนาจรัฐจะไม่มีทางเลือกอื่นใดที่จะทำให้รัฐไทยสูญเสียผลประโยชน์ของชาติเกินกว่าที่จะยอมรับได้ และเมื่อถึงสภาวะที่รัฐไทยสามารถเอาชนะกองกำลังติดอาวุธของขบวนการร้ายแห่งนี้ได้อย่างสิ้นเชิง โครงสร้างของขบวนการเห็นต่างจากรัฐก็จะถูกทำลาย สลายความเข้มแข็งและองค์กรลับแห่งนี้ถูกเปิดโปงจนสามารถลดทอนความเข้มแข็งในการต่อสู้กับรัฐให้อ่อนกำลังลงได้อย่างชัดเจน และนั่นคือปัจจัยแห่งความสำเร็จของกระบวนการออกจากความขัดแย้งตามแนวทางสันติวิธี ที่ตบท้ายด้วยการเจรจาเพื่อสันติสุขอันทรงพลังในพื้นที่ปลายด้ามขวานในที่สุด