วันเกิดปีที่ 39 สำหรับ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม วันที่ 21 ส.ค.ปีนี้ ดูจะมีความหมายไม่น้อย แม้เจ้าตัวอาจจะปรับอารมณ์ได้ยาก แต่นี่คือหนทางถูกบังคับให้เธอต้องเดินต่อ !

การไปปรากฏตัว ของนายกฯอิ๊งค์ วันนัดไต่สวนพยาน ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วย “นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช”  เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และทีมทนายความส่วนตัว เป็นการแสดงให้เห็นว่า ทั้งเธอและ “พ่อ” อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ นั้นพร้อมที่จะรับมือกับ “แรงกดดัน” จากคดีร้อนอย่าง “คลิปเสียง” อันเป็นเหมือน “จุดตาย” ที่จะชี้ว่า นายกฯอิ๊งค์ จะได้ไปต่อ หรือ พอแค่นี้ หากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ออกมาเป็นลบ

แต่เมื่อ “ผู้ถูกร้อง” คือนายกฯแพทองธาร เข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง เท่ากับว่านี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะแสดงให้เห็นถึง ความจริงใจ และตั้งใจจริงในการพูดคุยกับ “สมเด็จ ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา เพื่อหวังแก้ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา โดยที่ไม่รู้ว่า “อังเคิล” จะใช้วิธีตลบหลังด้วยการ “ปล่อยคลิปเสียง” เช่นนี้

นักวิเคราะห์ทางการเมือง หลายฝ่ายประเมิน ว่าหากวันนัดไต่สวนพยานบุคคล 2ปาก คือนายกฯแพทองธาร กับ “ฉัตรชัย บางชวด” เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไม่ปรากฏตัวนายกฯอิ๊งค์  จะยิ่งส่งผลต่อ “จิตวิทยาการเมือง” ยากที่จะหลีกเลี่ยง

เพราะอาจหมายความว่า เธอ “โยนผ้ายอมแพ้”  ไม่เลือกที่จะใช้ “โอกาสสุดท้าย” ชี้แจงต่อองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แล้วไปรอวันชี้ชะตา 29 ส.ค.ในสัปดาห์หน้าเลยในคราวเดียว

แต่เมื่อนายกฯแพทองธาร เลือกที่จะมานัดไต่สวนด้วยตัวเอง จึงกลายเป็นว่านาทีนี้ไม่ว่า “คำวินิจฉัย” จะออกมาอย่างไร แต่กว่าจะถึงวันชี้ชะตา สถานการณ์ทางการเมืองทั้งของ รัฐบาล และพรรคเพื่อไทย จึงไม่อยู่ในสภาวะที่ “ตีบตัน” และง่ายต่อการ “ถูกเขย่า” ให้ร่วงกันได้ง่ายๆ

แรงกดดันที่กำลังรออยู่เบื้องหน้า ก่อนถึงวันชี้ชะตา อาจไม่ได้มีเฉพาะ “ศัตรู” ที่มองเห็น อย่าง “สว.สีน้ำเงิน” ในฐานะ “ผู้ร้อง” จนทำให้ ปมประเด็น “คลิปเสียง” เข้ามาสู่มือศาลรัฐธรรมนูญ หรือ กลุ่มมวลชนรวมพลังแผ่นดิน ที่พากันไปปักหลักชุมนุมหน้ารัฐสภา ในวันเดียว  นัยว่า เป็นการ “ซ้อมชุมนุม” เท่านั้น

แต่อย่าลืมว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ที่เก้าอี้นายกฯคนที่ 30 คือ แพทองธาร เกิดขึ้นจริงเมื่อใด  บริบทการต่อสู้ทางการเมืองรอบใหม่จะเกิดขึ้นตามมาทันที

โดยเฉพาะการจับมือกัน ของ “พรรคร่วมรัฐบาล” เพื่อหนุน “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกฯ คนสุดท้าย จากพรรคเพื่อไทย จะยังเดินหน้าไปตามกรอบ ที่ทักษิณ พยายามกำหนด  จำกัด “อำนาจ” เอาไว้ในมือของ “เพื่อไทย” ให้ยาวนานที่สุด ได้หรือไม่

ปัจจัยที่กำลังจะเข้ามา “กำหนด” ทิศทางการเมือง  จากเดิมที่อาจมีเพียง “คดีความ” ของทักษิณ และนายกฯอิ๊งค์ ทว่าวันนี้ ดูเหมือนว่า “ความมั่นคง” ที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่กระทบต่อความเชื่อมั่น อย่างรุนแรง จนอาจทำให้เสียง “ตะโกนไล่” ผู้นำรัฐบาล ดังกระหึ่มก่อนวันชี้ชะตา 29 ส.ค.นี้ ด้วยซ้ำ !

 

#แพทองธาร #ศาลรัฐธรรมนูญ #คลิปเสียง #การเมืองไทย #เพื่อไทย