ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย สำหรับการตัดสินใจของ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธ “ขันหมาก” จาก “พรรคพลังประชารัฐ” ที่ยกขบวนมาสู่ขอกันถึงที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะไม่ว่าใครจะถามอย่างไรพล.อ.ประยุทธ์ บอกสั้นๆว่าขอเวลาตัดสินใจ ก่อนที่จะชัดแจ้ง ในวันนี้ (8 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่พรรคพลังประชารัฐ จะถือ “ชื่อนายกฯ” ของพรรคไปยื่นต่อกกต.
และในระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ให้คำตอบออกมาทางใดทางหนึ่งนั้น ก็กลายเป็นว่า เหมือนเป็นการเปิด “ช่องโหว่” ให้เกิด “ข่าวลือ”จนสร้างความวุ่นวาย เกิดการตีความ
จนเข้าขั้น “มโน” กันไปไกลว่า พรรคการเมืองคู่แข่งที่ยัง “อุบไต๋”ไม่เสนอชื่อนายกฯ อย่าง “พรรคไทยรักษาชาติ” จะมี “เซอร์ไพรซ์” ชนิดที่จะทำให้ฝั่งคสช.และตัวพล.อ.ประยุทธ์ จะต้องมีอึ้ง
อานุภาพของ “ข่าวลือ” ที่บานปลายเหมือนไฟลามทุ่ง ต้องอาศัยกลยุทธ์การปล่อยข่าวทั้งปากต่อปาก ไปจนถึงการแพร่ขยายความผ่านโลกออนไลน์ จึงจะได้ผล อย่างน่าพอใจ
หากถามว่าใครจะได้ประโยชน์จาก “ข่าวลือ” ที่ลุกลาม บานปลาย สร้างความวุ่นวาย ปั่นป่วนให้เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ ดูจะเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก แต่ดูเหมือนว่า การตัดสินใจ “ดึงเกม” ของพล.อ.ประยุทธ์ ในการที่จะตอบรับหรือปฏิเสธ เทียบเชิญจากพลังประชารัฐ ครั้งนี้ได้ทำให้เกิดภาพสะท้อนชัดเจนว่า
แท้จริงแล้วการต่อสู้ทางการเมืองนั้นยังไม่จบลงอย่างง่ายดาย อีกทั้งบ้านเมืองอาจไม่ได้สงบนิ่ง อย่างแท้จริง ตามที่คสช.และพล.อ.ประยุทธ์ พยายามที่จะชูจุดแข็งว่าด้วยเรื่องการรักษาความมั่นคงภายในประเทศมาโดยตลอด
ยิ่งเมื่อเวลานี้ การตอบโต้ การต่อสู้ทางการเมืองไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการระดมคนลงไปปักหลักชุมนุมกันบนท้องถนน เหมือนที่ผ่านมา เพราะการใช้รูปแบบการรบผ่านโลกออนไลน์นั้นต้องยอมรับว่า “ได้ผล” เกินคาด
แม้สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ แล้วจะมีความจำเป็นและจงใจที่จะดึงเกม เพื่อยื้อเวลาให้มากที่สุด ก่อนที่จะให้คำตอบ “เซย์เยส” ออกมานั้นเป็นเพราะ ไม่ต้องการรับแรงกระแทกที่จะมาจากรอบทิศรอบทาง ก่อนเวลาโดยใช่เหตุ
อีกทั้งยังประเมินต่อกันด้วยว่า ในทางกลยุทธ์ทางการเมืองแล้ว หากเปิดไพ่ที่มีอยู่ในมือทุกใบ ย่อมไม่ใช่การเดินเกมที่ถูกต้องนัก
ขณะเดียวกัน ในระหว่างยังไม่มีความชัดเจนจาก พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา จึงกลายเป็น โอกาสของพรรคไทยรักษาชาติ หนึ่งในพรรคสาขาในมือ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ที่สามารถบริหาร ความคลุมเครือให้กลายเป็น “อาวุธ” เพื่อเขย่าขวัญฝั่งตรงข้าม
ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว พรรคไทยรักษาชาติ กำลังเจอกับปัญหาสารพัดเรื่อง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น “ศึกใน” อันมาจากบริวารของทักษิณ นั่นเอง จนมีการประเมินตัวเลขส.ส. จากแกนนำของพรรคเพื่อชาติ ในฐานะพรรคแนวร่วมขั้วทักษิณ ว่าไทยรักษาชาติ จะไม่สามารถ กวาดที่นั่งส.ส.ได้ตามเป้าหมาย อย่างแน่นอน
หากจะบอกว่าในท่ามกลางการต่อสู้ ของสองขั้วอำนาจ ระหว่างคสช.และทักษิณ ครั้งนี้ ยังมีอีกหลายกลยุทธ์ ที่จะถูกหยิบขึ้นมาใช้ โดยไร้ร่องรอย แต่ที่แน่ๆ ยกแรกที่เพิ่งเริ่มต้น ได้ชิมลางกันแล้วที่สงครามจิตวิทยา เขย่าขวัญกันไปมา อย่างที่เห็น !