เว็บไซต์ Nobelprize.org ระบุว่ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพได้รับการมอบให้แก่ผู้ได้รับรางวัลโนเบล 142 คน ระหว่างปี พ.ศ. 2444 ถึง พ.ศ. 2567 รวม 105 ครั้ง แบ่งเป็นบุคคล 111 คน และองค์กร 31 แห่ง

ในอดีตสหรัฐเคยมีประธานาธิบดี ที่ได้รับรางวัลนี้มาแล้ว 4 คน ธีโอดอร์ โรสเวลต์  วูดโรว์ วิลสัน จิมมี่ คาร์เตอร์ และบารัค โอบามา

มีการจับตาว่า โดนัล ทรัมป์ จะได้รับรางวัลโนเบิลสาขาสันติภาพด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะบทบาทสำคัญในการสร้างสันติภาพระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน

ก่อนหน้านี้ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผยว่า ได้สนอชื่อ "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าชิงรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ พร้อมข้อความ ระบุว่า ตามความประสงค์ของประชาชนชาวกัมพูชาทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเพื่อแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อ ฯพณฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งท่านได้ให้ความใส่ใจเป็นการส่วนตัวในการริเริ่มและผลักดันให้เกิดการหยุดยิงระหว่างกองกำลังกัมพูชาและกองกำลังไทย รวมถึงการติดตามผลการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะบรรลุสันติภาพอย่างสมบูรณ์ระหว่างทั้งสองประเทศ

การเคลื่อนไหวดังกล่าว ได้จุดประเด็นให้เกิดการพิจารณาบทบาทของประธานาธิบดีสหรัฐฯในฐานะ "ผู้สร้างสันติภาพ" บนเวทีระหว่างประเทศอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความพยายามในการสร้างภาพลักษณ์ดังกล่าว มีข้อถกเถียงว่าแรงผลักดันหลักคือความปรารถนาในรางวัลอันทรงเกียรตินี้ เพื่อเป็นเกีบรติประวัติ หรือเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่แอบแฝงอยู่เบื้องหลังการดำเนินนโยบายทางการทูตของทรัมป์

แรงจูงใจเบื้องหลังการแสวงหา "ข้อตกลงสันติภาพ" ของทรัมป์มักถูกมองว่ามีความซับซ้อน นอกเหนือจากความปรารถนาในรางวัลโนเบลซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และสถานะทางการเมืองของเขาแล้ว

ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีเป้าหมายอื่น ๆ อีกหรือไม่  เช่น การเสริมสร้างภาพลักษณ์ส่วนตัวและทางการเมือง โดยใช้ข้อตกลงที่ประสบความสำเร็จเป็นเครื่องมือในการหาเสียงและสร้างความชอบธรรมให้กับการบริหารงาน แม้กระทั่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และ การขยายอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อลดทอนอิทธิพลของคู่แข่ง เหล่านี้นำไปสู่การตั้งคำถามถึงนิยามของคำว่าสันติภาพที่แท้จริง