สถาพร ศรีสัจจัง
ใครที่เคยดูละครเวทีเรื่อง “กาลิเลโอ” ของคณะละคร 28 ที่โรงละครแห่งชาติเมื่อสักประมาณ 20 ปีก่อน คงจะจำกันได้ว่า ละครเปิดฉากโดยความมืด ท่ามกลางความมืดนั้นเครื่องไฮโดรลิกกลางเวทีก็ดันร่างคนๆหนึ่งขึ้นมานั่งโดดเด่นตระหง่านอยู่ ในมือกระชับกีต้าร์ไว้มั่น กลางความมืด สปอตไลท์สาดจับที่ร่างนั้นเป็นรัศมีวงกลม แล้วเสียงทุ้มกังวานก็ก้องเอคโคขึ้น....
“...ก่อนที่ “ขบวนแห่” ของผู้ประกอบการจะมาถึง....เรามาทดลองฟังเพลงที่แต่งขึ้นมาอย่างยากลำบากแสนสาหัสกันก่อน....”
เสียงทุ้มห้าวนั้นดังมาจากปากบุรุษหัวฟู ครูใหญ่เพลงเพื่อชีวิต สุรชัย จันทิมาร ผู้รจนาเพลงประกอบละครเวที “กาลิเลโอ” อันลือลั่น
คำ “ขบวนแห่ของผู้ประกอบการ” ช่างให้ความรู้สึกเหมือนการนั่งดู “การเมืองเรื่องเลือกตั้ง” ในเมืองไทยยามนี้เสียนัก!
หรือการเลือกตั้งก็คือละครเวทีเรื่องหนึ่ง?
หรือการเลือกตั้งก็คือ “ขบวนแห่ของผู้ประกอบการ” ขบวนหนึ่ง ?
หรือบางใครแถมคำต่อท้าย “ขบวนแห่ผู้ประกอบการนักปล้น” !
ฟังดูช่างน่ากลัว!
ถามต่อไปอีกหน่อยหนึ่งว่า “ขบวนแห่” คืออะไร?และแห่อะไร? แล้ว “ผู้ประกอบการ” เล่า คือใครและพวกเขาประกอบการอะไรกัน? สุดท้าย “การเมือง(ไทย)” เล่าคืออะไร?
อันนี้คงต้องให้ใครแต่ละใครตอบกันเอาเองกแล้วกัน จะได้ตรงประเด็นและสะใจตามที่คาดหวังหรือต้องการ!
มีคนฝากบทกลอนชื่อ “นัก “กาน” เมือง” มาให้บทหนึ่ง เป็นบท “สักวา” ที่คนไทยนิยม “เล่น” กันมาแต่โบราณ อยากนำมาฝากให้อ่านกันในที่นี้ด้วย เขานิยามนักการเมือง “ไทย” มาอย่างนี้ :
“สักวานักการเมือง(ตามเรื่องเล่า)
เก็บกันมาแต่เก่าเล่าไม่สิ้น
คุณสมบัติคือต้องแน่น-โกงแผ่นดิน
ต้องทั้งแดกทั้งกินทั้งกอบโกย
ต้องมือไวใจกล้าต้องหน้าด้าน
ต้องเข้าย่านพวกอีแอบแบบเสือโหย
ต้องยกมือยืนยันทันตามโพย
ต้องชอบโซ้ยสินบนจนอ้วกเอย...ฯ
ไม่แน่ใจนักว่าบรรดา “ขบวนแห่” ที่เริ่มกันมาตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ศกนี้ จะมีขบวนไหนที่สมาชิกในขบวนมีคุณสมบัติอย่างที่บทสักวานิรนามว่าไว้มากกว่ากัน
เพราะนักพนันแอบกระซิบมาว่า ถ้า “ขบวน” ไหนมี “นักกานเมือง” แบบนั้นมากกว่า ก็ให้ถือหางขบวนนั้นได้เลย เลือกตั้งครั้งนี้ ขบวนแห่ที่ว่านั้นชนะแน่ !
ฟังแล้วรู้สึกเสียวๆยังไงก็ไม่รู้ !!!