โพลหลายสำนักเปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้คนในสังคมที่มีต่อ “รัฐบาล” กับ “กองทัพ” ทั้งในด้านภาพลักษณ์ และโดยเฉพาะความเชื่อมั่น จะพบว่ารัฐบาลที่มีเพียง “รักษาการนายกรัฐมนตรี” ได้คะแนนน้อยกว่า “กองทัพ”  อย่างเห็นได้ชัด

ผลการสำรวจของ “นิด้าโพล” ล่าสุดสะท้อนว่า “กองทัพ” ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอย่างท่วมท้น อยู่ที่ 75.73% ระบุว่า “ไว้ใจมาก”

ส่วน “รัฐบาลไทย” นั้นประชาชนส่วนใหญ่ขาดความเชื่อมั่นอย่างรุนแรง โดย 54.58% ระบุว่า "ไม่ไว้วางใจเลย"

ด้านความพึงพอใจในการแก้ไขปัญหา ประชาชน "พอใจมาก" ต่อบทบาทของกองทัพถึง 75.42% ในทางกลับกัน ประชาชน "ไม่พอใจเลย" ต่อบทบาทของรัฐบาล 54.43%

เสียงสะท้อนจากโพล คือส่วนหนึ่งที่ประชาชนแสดงออก และผ่านออกมาสู่สาธารณชน  แต่กระแสและปฏิกิริยาที่ประชาชนไม่พึงพอใจรัฐบาล ยังเริ่มมาตั้งแต่การแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งในครั้งนั้น รัฐบาลกับกองทัพ ถูกจับตาว่าร้องเพลงกันคนละคีย์ แต่กลับกลายเป็นว่าประชาชนเชื่อใจ กองทัพมากกว่า

และเมื่อเกิดกรณีที่ “ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา ปล่อยคลิปเสียงการสนทนากับ “หลานอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและรมว.วัฒนธรรม ยิ่งตอกย้ำให้สถานการณ์ของรัฐบาลเพื่อไทยเลวร้ายและดิ่งลง จากวันนั้นจนถึงวันนี้

ปัญหาของรัฐบาล ,พรรคเพื่อไทย ไปจนถึง “พ่อ-ลูกชินวัตร” ที่กลายเป็นการเปิดช่อง ให้ “ฝั่งตรงข้าม” ทั้งศัตรูเก่าและศัตรูใหม่ อย่าง “พรรคภูมิใจไทย” เป็นฝ่าย “บุก” บนความเชื่อมั่นว่า หากออกแรง “เขย่า” ให้มากกว่า อีกไม่นาน นายกฯแพทองธาร จะต้องร่วง จากเก้าอี้

โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย คดีคลิปเสียง เพราะฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณที่ประเมินว่า หากรัฐบาลยังไร้ “ผู้นำตัวจริง” มีเพียง “รักษาการนายกฯ” และ มี “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการรมว.กลาโหม ในท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติจากปัญหาความมั่นคง จนกระทบกับการเมืองที่กำลังเปราะบาง จนทำให้การเมืองยากที่จะเดินหน้าได้ต่อ !