นวัตกรรมหวยเกษียน ที่รัฐบาลย้ำประโยชน์ 3 เด้ง คือ ลุ้นโชครางวัลใหญ่ทุกสัปดาห์ ได้เงินออมก้อนเมื่อเกษียณ และได้ผลตอบแทนจากการลงทุน ล่าสุดผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

โดยการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้สร้างกระแสความสนใจในวงกว้าง เมื่อที่ประชุมมีมติ เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หวยเกษียณ” หรือ สลาก กอช. ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น เห็นชอบ 427 เสียง ไม่เห็นชอบเพียง 1 เสียง ก่อนส่งร่างไปยังวุฒิสภาพิจารณาภายใน 30 วัน

โครงการนี้ถูกนำเสนอในฐานะ นวัตกรรมการออมรูปแบบใหม่ ที่ผูกความนิยมในการเสี่ยงโชคของคนไทย เข้ากับการสร้างวินัยทางการเงิน โดยใช้แนวคิด “ซื้อหวย-เงินไม่หาย-กลายเป็นเงินออม” แต่คำถามคือ นี่คือเครื่องมือแก้ปัญหาการออมอย่างแท้จริง หรือเพียงแค่เพิ่มความหวังให้ผู้คนในยุคที่กำลังดิ้นรนกับปัญหาเศรษฐกิจ?

ประเทศไทยเผชิญปัญหาคลาสสิกคือ อัตราการออมของประชาชนต่ำ และสัดส่วนคนวัยเกษียณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) แม้ดำเนินงานมาหลายปี แต่ยังไม่สามารถจูงใจให้คนไทยออมเงินได้เพียงพอ

แนวคิดนี้จึงไม่ใช่แค่เครื่องมือการออม แต่ยังเป็นกลยุทธ์ทางพฤติกรรม (Behavioral Economics) ที่รัฐหยิบความชอบของคนไทยมาสร้างแรงจูงใจทางการเงิน

สำหรับกติกาในการออมเงินผ่านหวยเกษียณนั้น  กำหนดให้ผู้มีสิทธิจะต้องเป็นมีสัญชาติไทย อายุ 15 ปีขึ้นไป ทุกอาชีพ ทั้งในและนอกระบบแรงงาน ราคาสลาก 50 บาท รางวัลที่ 1 จำนวน 1 ล้านบาท (5 รางวัล)ที่ 2 จำนวน 1,000 บาท (10,000 รางวัล) ประกาศผล ทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น.

เมื่อถูกรางวัล โอนเงินผ่านพร้อมเพย์ทันที ไม่ถูกรางวัล เงินที่จ่ายจะสะสมเป็นเงินออมในบัญชี กอช. และคืนครบทุกบาทเมื่ออายุ 60 ปี ผู้ที่อายุเกิน 60 ปี ยังซื้อได้ แต่ต้องสะสมอย่างน้อย 5 ปี หากเสียชีวิต เงินทั้งหมดตกแก่ทายาท

หวยเกษียณถือว่าเป็นจิตวิทยาการเงิน คนไทยนิยมเสี่ยงโชค แต่ไม่ชอบออม การใช้ “หวย” เป็นแรงจูงใจอาจเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วม โดยมีต้นทุนต่ำ ราคาสลากเพียง 50 บาท ทำให้เข้าถึงได้ง่าย ดึงดูดความสนใจ แถมเงินไม่หาย แม้ไม่ถูกรางวัล เงินยังถูกเก็บเป็นเงินออม

อาจกลายเป็นโมเดลต่อยอดในการและนวัตกรรมทางการเงินอื่นๆเพื่อคุณภาพชีวิตและการพัฒนาประเทศ