ทีมข่าวคิดลึก ปฏิบัติการกวนน้ำให้ขุ่นจากฝ่ายตรงข้าม เพื่อต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังคงเดินหน้าเขย่าซ้ำโดยไม่มีท่าทีว่าจะลดราลงแต่อย่างใดทั้งที่ คสช.อยู่ในฐานะ ฝ่ายที่ได้เปรียบเพราะกุมอำนาจก็ตาม แต่ยิ่งนานวัน ยิ่งกลายเป็นว่า คสช.กลับถูกท้าทายจากฝ่ายตรง ข้าม สถานการณ์การเมืองวันนี้ หลายต่อหลายฝ่ายได้มองข้ามช็อตกันไปถึงภาพหลังการลงประชามติ ในวันที่7 สิงหาคมกันไปเรียบร้อยแล้ว หาก "ร่างรัฐธรรมนูญ" ผ่านหรือไม่ผ่านการลงประชามติแล้วบรรยากาศทางการเมือง ย่อมจะออกมาในทิศทางที่ไม่ราบรื่นนัก เพราะหากผลออกมาว่า ร่างรัฐธรรมนูญ ผ่านการทำประชามติ ย่อมทำให้ฝ่ายต่อต้าน ไม่พอใจ เช่นเดียวกัน หากผลออกมาในทางตรงข้ามกัน นั่นคือร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ฝ่ายที่เปิดตัวสนับสนุน อย่าง กปปส. ย่อมผิดหวังขณะเดียวกัน"พรรคเพื่อไทย" และสมาชิกบางส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่สนับสนุน "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"หัวหน้าพรรค ได้เคยประกาศจุดยืนเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า"ไม่รับร่างฯ" ย่อมจะหยิบไปใช้ในการขยายผล จนทำให้คสช. มีอันต้องเจอกับแรงกดดัน อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้เช่นกันว่า ในสายตาของ คสช.เองได้มองหาทางที่จะรับมือกับควันหลงที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังวันลงประชามติ เอาไว้เช่นกัน รวมทั้งได้หาทางออกเอาไว้เพื่อรองรับเรียบร้อยแล้ว ! ไม่ว่าจะเป็นหนทางการรองรับกับปัญหาร่างรัฐธรรมนูญ และ "คำถามพ่วง" ไม่ผ่านประชามติ จะขยับกันต่อไปอย่างไรจะมีการร่างขึ้นมาใหม่ ขณะเดียวกัน การรับมือด้วยการเปลี่ยนหน้าเล่นเพื่อรักษาที่มั่นให้กับ คสช. ย่อมถือเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เสียงยั่วเย้ยจากคนของพรรคเพื่อไทย อย่าง "สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" ที่ออกมาโยนข้อเสนอให้ "พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เปิดใจกว้าง เปิดทางให้ "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก้าวขึ้นมาเป็น "นายกฯ คนใหม่" แทนพร้อมทั้งให้เหตุผลว่า เพื่อให้บิ๊กป้อม ตัดสินใจเลือกทีมทำงานขึ้นมาขับเคลื่อนงานสำคัญของรัฐบาลได้อย่างรวดเร็วนั้น แน่นอนว่านี่คือการโจมตีในจุดที่อ่อนไหวและเปราะบางของ คสช. หวังตอกย้ำ "ข่าวลือ" ที่ปล่อยกันมาพักใหญ่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ กำลังอยู่ในการ "กินใจ"กับ "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" อย่างบิ๊กป้อมในท่ามกลางข่าวลือที่ว่า พล.อ.ประวิตรนั้นปรารถนาที่จะนั่งเก้าอี้ "นายกรัฐมนตรีคนที่ 30" แถมยังจงใจพ่วงไปกับการพุ่งเป้าไปยัง งานด้านนโยบายที่พรรคเพื่อไทยรู้ดีว่าสิ่งนี้คือประเด็นที่รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ มีความกังวลอยู่ไม่น้อย เพราะปัญหาปากท้องของประชาชนคือเรื่องใหญ่ที่ว่ากันว่าอาจจะถึงขั้นชี้เป็นชี้ตายรัฐบาล ยิ่งกว่าปัญหาการเมืองด้วยซ้ำ จากนี้ไป คสช.จะต้องหันมาเปิดทางให้รัฐบาล โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจของ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกฯได้นำเสนอมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือประชาชน อย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมรักษาความเชื่อมั่นให้เป็นปราการสำคัญทั้งรัฐบาลและ คสช.