ประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม2562 แม้ประชาชนบางส่วนของประเทศจะมีพรรคการเมืองในใจ หรือที่ในยุคหนึ่ง เคยเกิดปรากฏการณ์ที่พรรคการเมืองยอดนิยม ถูกยกย่องเรื่องความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ ว่าต่อให้ส่งเสาไฟฟ้าลงสมัครแข่งกับพรรคอื่นก็สามารถเอาชนะการเลือกตั้งได้แล้ว เช่น พรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ภาคใต้ และพรรคเพื่อไทย ในพื้นที่ภาคอีสาน เป็นต้น แต่ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ มีหลายปัจจัยที่จะเข้ามาเป็นเงื่อนไขในการตัดสินใจของประชาชนนอกจากข่าวที่มีการเปิดโผตัวบุคคลที่จะมาอยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะบัญชีจากพรรคที่ได้รับการคาดการณ์ว่า จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ทั้งเพื่อไทยประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐแล้ว สิ่งสำคัญคือ นโยบายของพรรคการเมือง ที่จะใช้ในการรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้จากการนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ก็คือการลอกสูตรเดียวกันนั่นคือ"ประชานิยม"สุดแท้แต่พรรคใดจะไปต่อยอดอย่างไรเพียงเท่านั้นภายใต้หลักการการนำงบประมาณ ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนผ่านโครงการต่างๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ด้วยมุ่งหวังว่านโยบายเหล่านี้จะดึงดูดประชาชนให้ตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองนั้นๆ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อถกเถียงถึงข้อเสียและเสียงวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบต่างๆ ต่อนโยบายประชานิยมมากว่า 10 ปี มีข้อเสนอให้ทบทวนและยกเลิกหลายครั้งหลายหน แต่ไม่สำเร็จ แม้แต่ในรัฐบาลทหารเองก็มีโครงการประชานิยม ความคาดหวังที่จะมีพรรคการเมืองใด เซนเซอร์ตัวเองยกเลิกมาตรการที่สุ่มเสี่ยงนั้น อาจเป็นไปได้ยากแต่หลังการเลือกตั้งก็คือรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารต้องคัดกรองว่า มาตรการใดที่ควรให้คงใว้ และมาตรการใดควรยกเลิก หากมีเสียงท้วงติงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือภาคส่วนอื่นๆ เฉกเช่น โครงการรับจำนำข้าวต่อไปนี้หากมีเสียงท้วงติงต้องทบทวน กระทั่งยกเลิกอย่าดันทุรังเพียงเพราะอ้างว่าเป็นนโยบายหาเสียงและพาประเทศไปสู่ความเสี่ยงบนปากเหว