เมื่อ “นายใหญ่” สั่งลุย ส่งสัญญาณ เล่นเกมแรง จ่อยึด “มหาดไทย” คืนจาก “ครูใหญ่บุรีรัมย์” จากสงครามตัวแทน ประดาบผ่าน “ผู้เล่น” ทั้งระดับ “พรรค” ไปจนถึง “รัฐมนตรี” จึงเพิ่มความแรงมากขึ้น
เมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ พูดชัด “สส.” และ “แกนนำเพื่อไทย” ต่างประสานเสียง “ขานรับ” ในท่วงทำนองสอดรับ ทั้งที่เป็นห้วงเวลาก่อนถึงวันโหวตผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2569 ด้วยซ้ำ นัยว่าพลพรรคเพื่อไทย มั่นใจว่า ถึงอย่างไร “ภูมิใจไทย” ไม่กล้า “หัก” ด้วยการ “โหวตคว่ำ” ร่างกฎหมายการเงิน ฉบันนี้แน่นอน
เพราะอย่าลืมว่า หากร่างกฎหมายการเงิน ไม่ผ่านสภาฯ ในวาระแรก “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯ จะไม่มีทางออกอื่น นอกเสียจากต้องประกาศยุบสภาฯ เท่ากับว่า “พรรคร่วมรัฐบาล” ทุกพรรค ต้องลงสนามเลือกตั้ง ก่อนครบเทอม
แต่การเลือกตั้งครั้งใหม่ จะต้องมีขึ้นเมื่อ “รัฐบาล” มีความพร้อมเท่านั้น โดยเฉพาะ “พรรคเพื่อไทย” ต้องมั่นใจว่า จะได้ “กลับมาอีก” ทว่าเมื่อประเมินจากทิศทางลมการเมืองรอบด้านแล้ว ต้องยอมรับว่า แม้จะไม่มีโพลสำนักใด สำนักหนึ่งสำรวจออกมาแล้วสะท้อนว่าเรทติ้ง ของ “ผู้นำฝ่ายค้าน” อย่าง “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” พุ่งแรงแซงหน้า นายกฯอิ๊งค์ ผู้คนต่างรับรู้ได้ดีอยู่แล้ว
ดังนั้นหมายความว่า การที่พรรคภูมิใจไทย ไม่เลือกการโหวตคว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2569 ไม่ได้หมายความว่า “ครูใหญ่บุรีรัมย์” อย่าง “เนวิน ชิดชอบ” แกนนำพรรคตัวจริง จะ “ยอมถอย” ให้กับพรรคเพื่อไทย โดยไร้เงื่อนไข
การส่งสัญญาณ ยึดกระทรวงมหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทย ในทางการเมืองแล้ว อาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ขณะเดียวกัน ก็ยิ่งไม่ใช่เรื่องง่าย !
อย่าลืมว่าวันนี้ทั้งบริบทการต่อสู้ทางการเมืองได้แปรเปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง การที่พรรคเพื่อไทยได้กระทรวงมหาดไทย ไปอยู่ในมือ ก็ไม่ได้หมายความว่า “โอกาส” ชนะเลือกตั้งรอบหน้าจะเกิดขึ้นได้ เพราะวันนี้พรรคเพื่อไทยเองไม่ได้สู้กับพรรคภูมิใจไทย เพียงพรรคเดียว แต่ “ภารกิจ” ล้ม “พรรคส้ม” ที่ได้รับ โจทย์มาก็ยังทำไม่สำเร็จ มิหนำซ้ำ พรรคส้มยังสะสมคะแนนนำร่องอย่างต่อเนื่องและอาจพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหม่มากที่สุด
สถานการณ์สำหรับทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เวลานี้อาจไม่ใช่จุดที่ดีนัก เพราะแม้จะมีการปรับครม. ไม่ว่าจะเป็นการปรับเล็ก เฉพาะเพื่อไทย หรือ “ปรับใหญ่” รวมไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล ในคราวเดียวกัน แต่ยังไม่มีอะไรการันตี คะแนนนิยมในเวลาที่กำลังนับถอยหลังได้เลย !