ภาพความสัมพันธ์ระหว่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โอบไหล่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ทักษิณ ไปร่วมงานที่สำนักงานป.ป.ส.ที่ผ่านมา น่าจะเป็นการตอกย้ำได้ว่า ศึกระหว่าง “แดง” กับ “น้ำเงิน” นั้นไม่มีอะไรในกอไผ่
เพราะทักษิณ พูดชัดเจนในการตอบคำถามสื่อว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยนั้นจะต้องอยู่ร่วมรัฐบาลกันไปจนครบเทอม ที่สำคัญไม่มีทั้งเรื่องของการ “เปลี่ยนตัวนายกฯ” ส่วนเรื่อง “ยุบสภา” นั้นยังอีกไกล ส่วนปัญหาเรื่องการสอบคดีฮั้วเลือกสว.ที่มีทั้งแดงและน้ำเงิน กำลังเปิดศึกกันอยู่นั้น ทักษิณ มองว่า เมื่อทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการ ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ และจบที่กระบวนการ
การตอกย้ำความสัมพันธ์ ระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ทั้งด้วยคำพูดและการโอบกอดอนุทิน เกิดเป็นภาพที่ปรากฎต่อสาธารณะด้วยความจงงใจนั้น ย่อมไม่ใช่เพื่อต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้เห็นว่า “รัฐบาล” ยังเดินหน้าต่อไปได้ และจะอยู่จนครบเทอม 4ปี จากนั้นไทม์ไลน์ทางการเมืองจะไปอยู่ที่การเลือกตั้งใหม่ ในปี 2570
และเหนืออื่นใด การที่ทักษิณ ออกโรงออกมาให้สัมภาษณ์ ตอบทุกคำถามกับสื่อครั้งนี้ ต้องยอมรับว่า เขาเองประเมินได้ว่า วันนี้สังคมต้องการอะไร และอยู่ในอารมณ์เช่นใด หากยังคงเงียบงันไม่ปรากฎตัวเหมือนที่ผ่านมา ย่อมไม่เป็นผลดีต่อทั้งพรรคเพื่อไทย ต่อรัฐบาล และโดยเฉพาะ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯที่กำลังรับมือกับ “แรงกดดัน” รอบทิศรอบทาง
โดยเฉพาะการก่อตัวของ “ฝ่ายต่อต้าน” ผ่านอดีตแกนนำม็อบเสื้อเหลืองและเสื้อแดง ซึ่งมีกรณี “ชั้น14” ที่เกี่ยวพันกับตัวอดีตนายกฯทักษิณ เป็นเงื่อนไขแห่งความสุ่มเสี่ยง และเป็นชนวนเหตุที่จะทำให้เกิด “ม็อบ” ไล่ครอบครัวชินวัตร รอบใหม่
วันที่ 13 มิถุนายน 68 นี้กำลังถูกจับตาว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมือง ตามมา เพราะไม่ว่าศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะมีคำสั่งในวันนัดพร้อม กรณีการรับโทษของทักษิณ ออกมาทางไหน ย่อมเกิดแรงกระเพื่อมตามมาอยู่ดี
เพราะอย่าลืมว่าวันนี้ ฝ่ายต่อต้านทักษิณ ที่พยายามนำเขากลับเข้าไปรับโทษในเรือนจำ ยึดเอามติแพทยสภา ที่สั่งลงโทษแพทย์3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวทักษิณ ออกไปรักษาที่ชั้น 14 ที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นสาระหลัก ที่จะนำมาหักล้างฝั่งของทักษิณ ดังนั้นผลการพิจารณาของศาลฯในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ จึงมีน้ำหนักและแรงกดดันมากพอที่จะกระแทกไปถึงตัวนายกฯแพทองธารอยู่ดี !