รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต
การศึกษาระดับอุดมศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ หลายคนอาจมองว่ามหาวิทยาลัยเป็นเพียงสถานที่ผลิตบัณฑิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน แต่ในความเป็นจริง "อัตลักษณ์" (Identity) หรือ “บุคลิกเฉพาะตัว” (Character) ของ
แต่ละมหาวิทยาลัยมีอำนาจในการหล่อหลอมสังคมที่ลึกซึ้งกว่าที่คิด อัตลักษณ์มหาวิทยาลัยนอกจากจะช่วยกำหนดทิศทางการศึกษาและการวิจัยแล้วยังส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อชุมชน สังคม และการพัฒนาประเทศ
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัยเริ่มต้นจากการสร้าง "ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง" ให้กับนักศึกษา เมื่อผู้เรียนรู้สึกได้รับการต้อนรับและการสนับสนุนจากสถาบัน นักศึกษาจะมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วม ยืนหยัด และประสบความสำเร็จมากขึ้น ไม่เพียงแต่ในด้านวิชาการ แต่ยังรวมถึงการเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม ความสัมพันธ์และเครือข่ายที่นักศึกษาสร้างขึ้นภายในมหาวิทยาลัยจะกลายเป็น "ทุนทางสังคม" ที่มีค่าผ่านสายสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมรุ่นและการเชื่อมโยงกับอาจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพ เครือข่ายเหล่านี้จะติดตัวไปตลอด และกลายเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างคุณค่าให้แก่สังคมหลังจากสำเร็จการศึกษา นอกจากนี้ อัตลักษณ์ยังสร้างความผูกพันที่ยั่งยืนระหว่างศิษย์เก่ากับสถาบัน ซึ่งนำไปสู่การสนับสนุนทั้งในด้านทรัพยากร การให้คำแนะนำ หรือการสร้างโอกาสให้กับนักศึกษารุ่นใหม่ ที่สร้างวงจรของการแบ่งปันและการพัฒนาที่ไม่จบสิ้น ส่งผลให้เกิดการต่อยอดองค์ความรู้และประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่น
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัยมีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังค่านิยมด้านความรับผิดชอบในฐานะพลเมืองและภาวะผู้นำ โดยการส่งเสริมให้นักศึกษามีส่วนร่วมในกิจกรรมทั้งในมหาวิทยาลัยและชุมชน ประสบการณ์เหล่านี้เตรียมความพร้อมให้บัณฑิตกลายเป็นพลเมืองที่มีความกระตือรือร้นและสร้างสรรค์ สภาพแวดล้อมในมหาวิทยาลัยยังมีอิทธิพลต่อทัศนคติทางศีลธรรมและการเมืองของนักศึกษา โดยส่งเสริมมุมมองที่เสรีและครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในคุณค่าทางสังคมที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับความยุติธรรมทางสังคม ความหลากหลาย และความเสมอภาค มหาวิทยาลัยที่มีอัตลักษณ์เข้มแข็งมักจะปลูกฝังจิตวิญญาณของการวิพากษ์วิจารณ์ การตั้งคำถาม และการแสวงหาความจริง ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของพลเมืองประชาธิปไตย
เมื่อมองไปยังตัวอย่างจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ จะเห็นว่าอัตลักษณ์ของแต่ละมหาวิทยาลัยสร้างผลกระทบต่อสังคมในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) เน้นการผสานมุมมองสากลกับองค์ความรู้แบบเอเชีย พร้อมส่งเสริมนวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ใช้ระบบวิทยาลัยที่กระจายอำนาจเพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการควบคู่กับการพัฒนาคุณลักษณะด้านจริยธรรม ส่วนมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผสานประเพณีทางประวัติศาสตร์กับความมุ่งมั่นต่อสัจจะ ("Veritas") และการส่งเสริมความหลากหลายและการเป็นผู้นำ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยที่มีอัตลักษณ์ชัดเจนจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมและการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอนกับบริษัท Uber ในโครงการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ที่ช่วยดึงดูดการลงทุน การสร้างงาน และการส่งเสริมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในพื้นที่โดยรอบ สำหรับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วางตำแหน่งให้มีบทบาทโดดเด่นด้านการเมืองภาคประชาชน มหาวิทยาลัยมหิดล มีจุดเน้นเรื่องสุขภาพประชาชน หรือมหาวิทยาลัยสวนดุสิต มุ่งดูแล “คน” ผ่านการจัดการศึกษาที่ครอบคลุมด้านอาหาร การศึกษา(ปฐมวัย) การท่องเที่ยวและบริการ พยาบาลและสุขภาวะ และล่าสุดกฎหมายและการเมือง
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัยโดยนัยแล้วเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาสังคมให้เติบโตทุกด้าน รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อัตลักษณ์มหาวิทยาลัยนอกจากหนุนการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจแล้ว ยังสามารถมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาสังคม เช่น ความไม่มั่นคงด้านอาหาร หรือการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ โดยการระดมทรัพยากรและความเชี่ยวชาญเพื่อสนับสนุนชุมชนในท้องถิ่น สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจด้านการรับใช้สาธารณะที่แท้จริงของมหาวิทยาลัยและตอกย้ำว่าอัตลักษณ์มหาวิทยาลัยสามารถเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชีวิตของผู้คนได้
อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยที่มีอัตลักษณ์สถาบันที่เข้มแข็งเกินไปไม่ยืดหยุ่นอาจก่อให้เกิดความเสี่ยง เนื่องจากให้ความสำคัญกับความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันมากเกินไป การทำตามแบบแผนโดยไม่ตั้งคำถาม และการซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่มีอยู่เดิม มหาวิทยาลัยควรตระหนักและพัฒนาสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ให้คุณค่าแก่ความหลากหลาย ให้การสนับสนุนแก่นักศึกษาทุกกลุ่ม และสร้างสมดุลระหว่างการรักษาอัตลักษณ์เฉพาะตัวกับการเปิดกว้างทางความคิดและการยอมรับความแตกต่าง รวมถึงการปรับเปลี่ยนหรือสร้างอัตลักษณ์ใหม่ที่รองรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ของสังคม ทั้งนี้เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ส่งเสริมการเติบโตอย่างรอบด้าน
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัยไม่ใช่สัญลักษณ์หรือสีประจำสถาบันเท่านั้น แต่อัตลักษณ์มหาวิทยาลัยคือกลไกขับเคลื่อน
การสร้างสรรค์สังคม ตั้งแต่การหล่อหลอมบัณฑิตที่มีคุณภาพ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น ไปจนถึงการสร้างผู้นำและพลเมืองที่มีจิตสำนึก เมื่อมหาวิทยาลัยสามารถสร้าง รักษา สืบต่อ และต่อยอดอัตลักษณ์เฉพาะตัวกับการเปิดรับความหลากหลายได้อย่างเหมาะสม มหาวิทยาลัยจะเป็นกำลังหลักขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมให้เข้มแข็งและยั่งยืน ประกอบกับการตระหนักถึงพลัง
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัยที่มีการบริหารจัดการอย่างฉลาด จะช่วยให้มหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็นรากฐานสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับสังคมและประเทศได้อย่างเต็ม ๆ ครับ