กางปฏิทินการเมือง จะพบว่าในห้วงสัปดาห์นี้ “ความร้อนแรง” มารวมตัวกัน โดยแทบไม่ได้นัดหมาย แต่ละวาระ แต่ละเรื่องราว ล้วนเชื่อมโยงและผูกกันเอาไว้ด้วยผลแพ้-ชนะ ที่ต่างฝ่าย ต่างมีเดิมพันสูงลิบลิ่ว ไม่ต่างกัน
28-31 พ.ค.68 มีประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ2569 โดยที่ “พรรคเพื่อไทย” ในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล จะต้องผลักดันให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯในวาระแรก
แต่การร่วมกัน “ออกแรง” ผลักดันร่างกฎหมายการเงิน คือร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2569 หากดำเนินไปในยามที่การเมืองเป็นปกติ ไม่มีแรงกระเพื่อม จากความขัดแย้งภายใน “รัฐบาลผสม” จนเกิดเป็น “ศึกหลายเส้า” ระหว่าง พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และอาจลามไปถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ามาเป็นหนึ่งในสมการแห่งความขัดแย้ง ที่คุกรุ่นตั้งแต่เมื่อมีความเคลื่อนไหว ร่ำๆเตรียมจะปรับครม.
ทั้งที่ลำพังแล้ว การฟาดฟันกันระหว่างเพื่อไทยกับภูมิใจไทย ก็เอาเป็น เอาตายกันอยู่แล้ว เมื่อฝั่งเพื่อไทย ต้องการ “ล้ม” สว.สายสีน้ำ ที่เชื่อมต่อกับพรรคภูมิใจไทย เพราะฝ่ายหลังเล่นยึด “สภาสูง” คุมเกมเลือก “องค์กรอิสระ” เอาไว้ในมือเพียงคนเดียว
และน่าสนใจว่า วันที่ 27 พ.ค.นี้ “ทักษิณ ชินวัตร”อดีตนายกฯ จะปรากฏตัวปาฐกถาว่าด้วยเรื่องยาเสพติด ที่สำนักงานป.ป.ส. ถือเป็นเวทีแรกหลังจากที่เขาหายไปจากหน้าสื่อ ไปนานเกือบเดือน ซึ่งการกลับมาปรากฎตัวรอบนี้ มีคำถามที่หลายคนอยากฟังด้วยกันหลายเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาระหว่างพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทย จะไปอย่างไรต่อแล้ว ล่าสุด “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯผู้เป็นน้องสาว ยังถูกศาลปกครองสูงสุด สั่งให้ชดใช้ความเสียหายจากคดีจำข้าวเป็นเงินกว่า 1หมื่นล้านบาท
การเดินหน้าตรวจสอบคดีฮั้วเลือกสว. ยังจะยืนระยะอยู่อีกยาว เพราะวันนี้ขณะที่กระบวนการขั้นตอนทั้งในส่วนของดีเอสไอและกกต. โดยเฉพาะการเรียก สว.ล็อตที่ 3 เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ระหว่างวันที่ 29-30พ.ค.นี้ ยังเกิด “วาระซ้อนเร้น” ที่รอให้ “มือยุบพรรค” อย่าง “ณฐพร โตประยูร” ออกมาเฉลย ว่า “ใคร” คือตัวจริง ที่อยู่เบื้องหลัง ที่ทั้งเพื่อไทย และณฐพร ต้องการถล่ม
สถานการณ์ทางการเมืองตลอดห้วงสัปดาห์นี้ จึงมากกว่าความเข้มข้น เพราะในความขัดแย้งนี้ ยังไม่มีสัญญาณ การ “หย่าศึก” เกิดขึ้นเสียที !