คำตอบจาก อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แม้ได้สะท้อนว่าขุ่นใจ แต่พยายามชี้ให้เห็นว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญ ทว่าก็ดูจะเป็นประเด็นที่เชื่อได้ง่ายนัก เพราะการที่ พรรคการเมือง ที่ตนเองเป็นหัวหน้าพรรค กำลังจะถูกยื่นให้ยุบพรรค
ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และในฐานะมือวางอันดับหนึ่งในการยื่นยุบพรรคการเมือง โดยมีกรณียุบพรรคก้าวไกล เป็นเครื่องการันตีผลงาน ล่าสุดได้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยุบพรรคภูมิใจไทย เป็นการ ขยายแผล จากคดีการฮั้วเลือกสว. ในปี 2567
โดยณฐพร ชี้ว่าจากพยานหลักฐานเรื่องการฮั้ว สว. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังตรวจสอบอยู่ พบความเชื่อมโยงถึง หัวหน้าและผู้บริหารของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการได้มาของสมาชิกวุฒิสภา และ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 ที่ระบุว่า เป็นการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย จึงจำเป็นให้ต้องยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคการเมืองดังกล่าว โดยคาดว่าจะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ไม่เกินวันที่ 21 พ.ค.68 นี้
อนุทิน บอกกับสื่อเมื่อถูกถามถึงการเคลื่อนไหวของณฐพร ว่า เป็นเรื่องไร้สาระ ยืนยันว่า พรรคไม่ได้ทำอะไรผิด
เราไม่เคยทำอะไรผิด สมาชิกพรรคทุกคน ทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร และในฝ่ายนิติบัญญัติก็ทำหน้าที่สส. เขาก็ทำงานในส่วนของเขา ขอย้ำว่าไม่ได้ทำอะไรผิด (19 พ.ค.68 )
ขณะที่ณฐพร เตรียมยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย เป็นการขยายผลมาจากคดีฮั้วเลือกสว. ซึ่งเส้นทางนี้ เมื่อไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะถือเป็นความสุ่มเสี่ยง ที่หนักหนาเอาการอยู่ ปรากฏว่า ล่าสุดคณะอนุกรรมการกกต. ออกหมายเรียกผู้ถูกแจ้งข้อหาในคดีฮั้ว สว. มีทั้งสว.และบุคคลที่ไม่ได้เป็น ส.ว. เป็นคนนอกที่ผลการสอบสวนพบว่า มีส่วนร่วมด้วย
โดยมีชื่อผู้ที่ล้วนเกี่ยวข้อง มีผู้ที่เป็นถึงรัฐมนตรี คือ นภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.นครพนม อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ยังไม่นับรวมอีก 8 รายที่เชื่อมโยงกับพรรคแทบทั้งสิ้น
สถานการณ์วันนี้ของพรรคภูมิใจไทย ดูจะไม่สู้ดีนัก อาการคล้ายเจียนอยู่เจียนไป เพราะอาจไม่ใช่แค่จะต้องสูญเสีย สว.สายสีน้ำเงิน และโอกาสที่พรรคจะถูกยุบ ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้น !