เสือตัวที่ 6

การต่อสู้ในดินแดนปลายด้ามขวานเป็นการต่อสู้อันลุ่มลึก ปกปิดซ่อนเร้น อำพราง และผันแปรไปตามสถานการณ์ที่ยากจะมีคนเข้าใจปรากฏการณ์นี้ด้วยชุดความคิดเดียวได้อย่างถ่องแท้ กาลเวลาที่ผ่านไปการสู้รบในสมรภูมิปลายด้ามขวานแห่งนี้ยิ่งทวีความลุ่มลึกและเต็มไปด้วยลีลาการขับเคลื่อนอย่างมีชีวิตชีวาตลอดเวลาในทุกย่างก้าว นี้เองจึงทำให้ผู้คนที่เคยมีประสบการณ์อันโชคโชนในห้วงเวลาหนึ่งนั้นไม่สามารถตอบโจทย์ของการสู้รบในห้วงเวลาต่อมาได้รอบด้านอย่างแท้จริง ผู้คนที่เคยมีประสบการณ์ในระดับของการปฏิบัติการหนึ่งจึงไม่สามารถตอบโจทย์ในมุมมองต่างระดับปฏิบัติการได้อย่างครอบคลุมในทุกด้านตามห้วงเวลาที่เปลี่ยนไป เพราะยุทธศาสตร์และยุทธวิธีการสู้รบในสมรภูมิปลายด้ามขวานแห่งนี้มีการระดับปฏิบัติการหลายชั้นตั้งแต่ระดับยุทธศาสตร์ที่แกนนำหลบซ่อนกำหนดและบัญชาการระดับยุทธศาสตร์ทั้งต่างประเทศและในประเทศ ระดับยุทธการที่กำหนดและบัญชาการในการสู้รบในพื้นที่ และระดับยุทธวิธีที่พร้อมขับเคลื่อนการปฏิบัติตามที่ได้รับบัญชามาอย่างเป็นผล ความหลากหลายระดับของโจรใต้จึงทำให้นักคิดนักต่อสู้ของรัฐที่ช่ำชองในระดับการต่อสู้หนึ่ง จึงไม่เข้าใจระดับการต่อสู้ในระดับอื่นที่ต่างไปอย่างถ่องแท้ ผนวกกับการซ่อนเร้นอำพรางของฝ่ายขบวนการที่สร้างความยากของการเข้าใจ เข้าถึงยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของพวกเขาได้ ทำให้นักคิดนักต่อสู้ของรัฐตีความไปคนละทิศละทาง หาความเป็นเอกภาพได้ไม่

นักคิดนักต่อสู้ของรัฐจึงแยกออกไปเป็นกลุ่มสำนักคิดที่เชื่อมั่นในชุดความคิดของตนเองอย่างเข้มข้นจนยากที่จะผสมผสานความเห็นต่างเหล่านั้นให้เป็นกรอบคิดในแนวทาเดียวกันได้ ซึ่งนั่นคือโจทย์ใหญ่ของฝ่ายเดียวกันที่รัฐยังหาทางแก้ไขด้วยการบูรณาการความเห็นต่างเหล่านั้นให้เป็นแนวคิดแนวทางที่สามารถเดินไปด้วยกันไม่ได้ สำนักคิดของรัฐที่เข้าใจรับรู้ในปรากฏการณ์การต่อสู้ในห้วงเวลาและด้านการรับรู้ที่ต่างกัน จึงทำให้ความคิดความเชื่อของคนแต่ละกลุ่มที่มองขบวนการร้ายแตกต่างกันไป บางสำนักคิดก็เชื่อว่าขบวนการร้ายแห่งนี้ไม่ได้มีจุดหมายสุดท้ายคือการแบ่งแยกดินแดน สำนักคิดนี้เชื่อว่าขบวนการร้ายแห่งนี้ทำเพื่อต้องการปกครองตนเองภายใต้รัฐไทย และเชื่อว่าคนเห็นต่างเหล่านี้มีด้วยกันหลายกลุ่มที่ต่างฝ่ายต่างชิงการนำด้วยศักยภาพที่มีใกล้เคียงกัน และเชื่อว่าการเอาชนะการต่อสู้ในสมรภูมินี้ต้องใช้การเจรจาสันติภาพเป็นสำคัญ ในขณะที่บางสำนักคิดเชื่อว่าขบวนการร้ายแห่งนี้มีจุดหมายสุดท้ายคือการแบ่งแยกดินแดนเพื่อเอกราชปาตานี และเชื่อว่าคนเห็นต่างเหล่านี้แม้จะมีด้วยกันหลายกลุ่ม หากแต่ปัจจุบันกลุ่มที่มีศักยภาพสูงสุดโดยเฉพาะเป็นกลุ่มที่มีกองกำลังติดอาวุธที่เข้มแข็งและพร้อมต่อสู้ด้วยอาวุธกับรัฐอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือกลุ่ม BRN ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่รัฐต้องแก้ให้ตรงเป้า นั่นก็หมายความว่า หากรัฐต้องการเอาชนะในสงครามครั้งนี้ รัฐต้องเอาชนะกลุ่ม BRN ให้ได้อย่างแท้จริง ในขณะที่สำนักคิดอื่นของรัฐไม่เชื่อว่า BRN คือโจทย์ใหญ่โจทย์เดียวและไม่เชื่อว่าการเอาชนะขบวนการร้ายในพื้นที่คือการเอาชนะกลุ่ม BRN เท่านั้น ในขณะที่บางสำนักคิดเชื่อว่าต้องเปิดตัว BRN ให้สาธารณะรับรู้เพื่อพุ่งเป้าคู่ต่อสู้ที่ชัดเจน ในทางตรงข้าม บางสำนักคิดเชื่อว่าไม่ควรยอมรับ BRN ให้เป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะเพราะ BRN จะมีฐานะเทียบเท่ารัฐอันจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการต่อสู้กับรัฐมากขึ้น

บางสำนักคิดเชื่อว่ารัฐควรประกาศให้ BRN เป็นกลุ่มก่ออาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อให้รัฐสามารถใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐในฐานะองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติได้เต็มที่ โดยเฉพาะการตัดเส้นทางทางการเงินซึ่งเงินทุนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนการต่อสู้ของขบวนการร้ายในพื้นที่ได้อย่างทรงพลัง ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์การแย่งชิงการนำกันเองของฝ่ายรัฐที่ทำให้ไม่สามารถแต่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาไฟใต้ และไม่สามารถแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขของรัฐให้สำเร็จได้ตามที่คิด สำนักคิดในการต่อสู้ของรัฐในสมรภูมิแห่งนี้ที่เกิดกลุ่มมากมายโดยมีชุดความคิดความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างมากในการตอบโจทย์ที่แกนนำขบวนการร้ายแห่งนี้สร้างขึ้น กระบวนการคิดของแต่ละสำนักคิดของรัฐที่ต่างฝ่ายต่างเชื่อในชุดความคิดของตน มีความแตกต่างกันอย่างมากจึงยากที่จะบูรณาการชุดความคิดอันแตกต่างเหล่านั้นมาเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ทำให้การแต่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาไฟใต้เนิ่นช้ามาจนส่งผลให้หน่วยระดับรองลงมาขาดความชัดเจนในนโยบาย ต้องประคับประคองตัวจนไม่สามารถขับเคลื่อนการต่อสู้กับขบวนการร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สภาวการณ์ของการต่อสู้ในสมรภูมิปลายด้ามขวานแห่งนี้จึงอยู่ในสภาพที่กลุ่มขบวนการต่อสู้เพื่อเอกราชปาตานีมีความกลมเกลียวมีเอกภาพในความพยายามเป็นหนึ่งเดียวแม้จะมีวิถีการต่อสู้ที่แตกต่างกัน หากแต่เป็นการแยกกันเดิน ร่วมกันตีที่ไม่มีการขัดแย้งกันและกัน ทั้งยังส่งเสริมเกื้อกูลกันและกันให้ก้าวย่างสู่เป้าหมายของพวกขา เพื่อชัยชนะต่อรัฐไทยด้วยความแน่วแน่เป็นหนึ่งเดียว แกนนำใหม่หรือคนในกลุ่มใหม่ต่างก็สานต่ออุดมการณ์การต่อสู้สู่เป้าหมายเอกราชปาตานีร่วมกันโดยไม่มีการขัดแย้งแข่งขันเพื่อเอาชนะกันจนเสียผลใหญ่ ที่เป็นดังนี้ก็เพราะพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างมีเอกภาพนั่นคือเอกราชของคนในพื้นที่เป็นอุดมการณ์ร่วมกัน เพื่อชัยชนะต่อรัฐไทยด้วยความแน่วแน่เป็นหนึ่งเดียว

ในทางตรงข้าม รัฐไทยกลับมีหลากหลายสำนักคิดที่มีความคิดความเชื่อและความนิยมในวิธีการต่อสู้กับขบวนการร้ายในพื้นที่ที่เป็นของตนเอง แต่ละกลุ่มสำนักคิดล้วนมีความเชื่อมั่นในแนวคิดและความเชื่อของกลุ่มตนเป็นสำคัญแบบสุดโต่งซึ่งถูกฝังความเชื่อในแบบฉบับของกลุ่มตนที่ยากจะยอมรับแนวคิดความเชื่อของสำนักคิดของกลุ่มอื่นได้โดยง่าย ด้วยต่างฝ่ายต่างมีความรู้และประสบการณ์ที่เคยเรียนรู้จากการต่อสู้กับขบวนการร้ายในพื้นที่ปลายด้ามขวานที่ต่างแง่มุม ต่างบริบท และต่างห้วงเวลาในการต่อสู้ ประกอบกับขบวนการร้ายแห่งนี้ก็ยังมีกลยุทธ์การซ่อนเร้นอำพรางกระบวนการต่อสู้ของพวกเขา สร้างโจทย์ซ้อนโจทย์ที่ยากจะทำความเข้าใจได้ ซึ่งแน่นอนว่าความคิดความเห็นต่างกันย่อมเป็นไปได้ หากแต่ในสมรภูมิแห่งนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐต้องเร่งบูรณาการความคิดต่างด้วยกลยุทธ์แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่างฝ่ายเดียวกันเองให้ได้ก่อน จึงจะเอาชนะขบวนการร้ายเหล่านี้ได้ในที่สุด