กำแพงป้องกันเศรษฐกิจไทย

โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกแขกสำเร็จจากการตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ จนหุ้นดิ่งทั่วโลก แม้คำประกาศล่าสุดจะชะลอมาตรการดังกล่าวออกไปชั่วคราว 90 วัน แต่ก็เป็นห้วงเวลาที่สหรัฐจะกลับมาอยู่ในจุดที่ได้เปรียบในการเจรจาต่อรอง จึงไม่แปลกที่เขาจะเย้ยหยันบรรดประเทศต่างๆที่มาขอเจรจาว่า “จูบก้น”ของเขา “kiss my ass”

ภายใน 90 วันนี้กระบวนการรับมือกับสหรัฐ หรือพูดให้ถูกก็คือรับมือกับ “ทรัมป์” สำหรับประเทศไทย มีตัวอย่างประเทศในเอเชีย ที่เราสามารถหยิบยกมาได้ เช่น เวียดนาม ซึ่งเวียดนามกลายเป็นแม่เหล็กของนักลงทุนต่างชาติหลังเกิดสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ โดยสามารถดึงดูดบริษัทที่ย้ายฐานการผลิตออกจากจีนผ่านมาตรการลดภาษี, การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และการลดขั้นตอนราชการ

สำหรับเกาหลีใต้ เมื่อสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในปี 2018 เกาหลีใต้ตอบโต้ด้วยการ ใช้กลไกระหว่างประเทศ ทั้งการฟ้อง WTO และการใช้ข้อตกลง FTA ที่ลงนามไว้ เพื่อกดดันให้เกิดการยกเว้นภาษีบางรายการ

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Kobsak Pootrakool" (10 เมษายน 2568 )หัวข้อ “จบยกแรก ระฆังช่วย” โดยเตือนว่าแม้ไทยจะไม่ได้เป็นเป้าหมายหลักเหมือนจีน แต่การที่โรงงานจีนย้ายฐานมายังไทย กลับทำให้ไทย “ถูกจับตา” จากสหรัฐฯ ว่าเป็น ฐานผลิตตัวแทน (Proxy)

“สหรัฐรู้ว่าโรงงานในไทยหลายแห่งเป็นทุนจีน... หากไทยไม่วางตัวดี อาจถูกมองว่าเป็นการหลบเลี่ยงภาษี”

ดร.กอบศักดิ์ ระบุด้วยว่า ทรัมป์ให้เวลา 90 วันก่อนเก็บภาษีเต็มที่ ประเทศต่าง ๆ ต้องรีบเจรจา หากไทยนิ่งเฉยหรือต่อรองช้า อาจ เสียเปรียบเชิงนโยบายและความสามารถในการแข่งขัน

“ต้องตั้งโต๊ะเจรจาทันที ถ้าช้ากว่าเวียดนามหรืออินโดนีเซียเราจะกลายเป็นผู้เสียโอกาส”

ทั้งนี้ ดร.กอบศักดิ์ ยังเสนอว่า หากต้องการให้สหรัฐฯ ผ่อนปรน ไทยต้องแสดงความจริงใจในการ ลดกีดกันทางการค้า, ลดอุดหนุน, ไม่แทรกแซงค่าเงิน และคุ้มครองแรงงาน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ทรัมป์ใช้ในการพิจารณา

อย่างไรก็ตาม ดร.กอบศักดิ์ มองว่าภาษีรอบนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาษีรายอุตสาหกรรมหรือรายบริษัทในภายหลัง ไทยต้อง วางระบบเตือนภัยและแผนสำรอง เพื่อรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน

ทั้งหมดทั้งมวล ข้อเสนอต่างๆนี้ ผู้เขียนคาดหวังให้รัฐบาลแพทองธาร โชว์ภาวะผู้นำพลิกเกม เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส สำหรับประเทศชาติ ที่อานิสงส์จะส่งผลให้กำแพงภาษีสหรัฐ เปลี่ยนนเป็นกำแพงปกป้องเศรษฐกิจไทย และรัฐบาลแพทองธารเองด้วย