ปัญหา “ฝุ่นละอองละเอียด” (ฝุ่นละอองที่เล็กกว่า 25 ไมครอน) ที่ชาว กทม. กำลังเผชิญอยู่นี้ ความจริงก็มิใช่เรื่องปัญหาใหม่ ชาว กทม. เราต้องประสบกับปัญหานี้ในเดือนมกราคมมาหลายปีแล้ว เพียงแต่เมื่อสองสามปีก่อนปัญหายังไม่รุนแรงนัก ชาวไทยจึงไมใส่ใจกับปัญหานัก
ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 25 ไมครอนนี้ เป็นปัญหาที่คุกคามมหานครทั่วทั้งโลกมานานแล้ว ต้นตอสำคัญก็คือปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มปริมาณมากขึ้น จึงดูเหมือนจะเป็น “ปัญหาโลกแตก” ที่ไร้ทางแก้ไข
เพราะเมื่อมนุษย์ต้องการอยู่แบบ “มหานคร” ที่สะดวกสบาย ก็ต้องแลกกับการเผชิญกับปัญหาสภาวะดล้อมแทบทุกด้าน เช่นอากาศเป็นพิษจากรถยนต์ , ปัญหาขยะ , น้ำเสีย , แหล่งเสื่อมโทรม
ปัญหาเหล่าจะเกิดตามมากับการขยายตัวของ “มหานคร”
มหานครใหญ่ ๆ ในยุโรปและเอเชีย ต่างเผชิญปัญหาเหล่านี้มานานแล้ว มีการวิจัยศึกษาสาเหตุไว้มากมาย หลายประเทศเป็นปัญหาใหญ่หลวง แต่บางประเทศก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ เช่นจีนซึ่งมีมาตรการแก้ปัญหาอย่างเข้มงวด
มหานครปักกิ่ง เผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศอย่างร้ายแรงในช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา
ต้นตอของปัญหาเกิดจากการใช้พลังงานฟอสซิล ทั้งจากการคมนาคมการใช้รถยนต์ปริมารมหาศาล และการใช้พลังงานจากฟอสซิลของโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งสองเรื่องนี้ปัญหาในประเทศไทย (กทม.) ยังไม่ร่อายแรงเท่าจีน จึงยังปล่อยปละละเลยกันต่อไป ประเภท “ไม่ยังเห็นโลงศพ จึงยังไม่รู้สึกตัว”
ปักกิ่ง (รวมถึงเกาหลีใต้) ใช้มาตรการควบคุมปริมาณรถยนต์อย่างเข้มงวดมาก (แบบที่รัฐไทยไม่กล้าทำ) บังคับใช้รถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด
การเปลี่ยนระบบพลังงานรถมอเตอร์ไซค์นี้สำคัญมาก การบังคับใช้รถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าทำให้สามารจัดความเร็วรถมอเตอร์ไซค์ ลดอุบัติเหตุ ลดมลพิษ อีกทั้งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของจีนมีราคาถูก
ทั้งหมดนี้เป็นข้อดีสำหรับสังคมไทยทุกข้อ
แต่เกิดขึ้นในเมืองไทยไม่ได้
ส่วนการใช้พลังงานองโรงานอุตสาหกรรมในจีนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาก คือมีการลดการใช้ SMEพลังงานถ่านหินไปมากมาย
สองเรื่องนี้ได้ช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศไปได้มากในมหานครหลายแห่งของจีน
สำหรับไทย ซึ่งมีปัญหาแค่ “เริ่มต้น” ยังไม่รุนแรงนัก หากบริหารจัดการ ปัญหาสองด้านนี้ได้ดีขึ้น เราก็เชื่อว่าจะป้องกันและดทอนปัญห่ลงได้แน่
ปัญหาเรื่องแรกคือ ใช้ยุทธศาตร์ “ลดปริมาณรถยนต์” อย่างจริงจัง
ปัญหาเรื่องสองคือ เปลี่ยนระบบพลังงานสำหรับรถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์) เป็นระบบไฟฟ้าให้หมด พร้อมกับสนับสนุน SME ไทย ให้เป็นผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ขายในเมืองไทยเอง ซึ่งจะเท่ากับยิงนัดเดียวได้นกหลายตัว คือ ลดทอน ป้องกันมลพิษทางอากาศ ลดอุบัติเหตุ และยังสร้างและสนับสนุน เอสเอ็มอีไทยด้านรถมอเตอร์ไซค์อีกด้วย