เสือตัวที่
ยุทธภูมิการต่อสู้เพื่อเอาชนะในสมรภูมิชายแดนใต้ที่กำลังครุกรุ่นขึ้นมาด้วยการก่อการร้ายสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในบรรยากาศการสู้รบของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐที่มีหลากหลายกลุ่ม หากแต่กลุ่มขบวนการต่อสู้กับรัฐที่มีหลากหลายกลุ่มนี้กลับมีเอกภาพทางความคิดที่มุ่งมั่นสู้เอกราชของดินแดนแห่งนี้ที่เรียกว่าเอกราชปาตานีเป็นเป้าหมายเดียวกัน แม้แต่การต่อสู้ของขบวนการร้ายเหล่านี้จะมีความเชื่อและความนิยมในวิธีการที่แตกต่างกันบ้าง หากแต่วิธีการต่อสู้เหล่านั้นได้สอดประสานเกื้อหนุนกัน อันจะก่อให้เกิดพลังในการเดินหน้าของขบวนการให้เข้มแข็งทรงพลังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่นิยมใช้การต่อสู้ทางการเมืองเป็นหลักด้วยการชี้นำโน้มน้าวทางความคิดในระดับชาติผ่านเวทีรัฐสภา ควบคู่กับการปลุกระดมสร้างแนวร่วมมวลชนที่เข้มแข็งและสนับสนุนด้วยการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ตามจังหวะก้าวเพื่อเร่งเร้าความสำเร็จในการต่อสู้ทางการเมือง หรือจะเป็นกลุ่มขบวนการร้ายที่นิยมใช้ความรุนแรงก่อการร้ายทุกรูปแบบเป็นหลัก ด้วยการสร้างกองกำลังติดอาวุธที่เข้มแข็งมีศักยภาพในการต่อสู้กับรัฐอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งมีขีดความสามารถระดับกองโจรติดอาวุธที่ใช้วิธีการของพลแม่นปืนที่ลอบสังหารเหยื่อได้อย่างแม่นยำได้เพียงนัดเดียวโดยใช้พื้นที่ที่เจ้าหน้าที่รัฐไทยจะเข้าถึงได้ยาก โดยกลุ่มนี้ใช้ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ที่สร้างพลังการต่อสู้ด้วยความเชื่อทางศาสนาผ่านวาทะกรรมสงครามญิฮาดที่พยายามให้ความหมายอย่างคลาดเคลื่อนเพื่อปลุกพลังของผู้คนมุสลิมให้ลุกขึ้นสู้กับรัฐด้วยอาวุธอย่างแน่วแน่
แม้วิธีการต่อสู้เพื่อเอกราชปาตานีที่คนกลุ่มเห็นต่างจากรัฐกลุ่มนี้จะนิยมใช้วิธีการที่แตกต่างกัน หากแต่กระบวนการเหล่านั้นมีความสอดประสานเกื้อกูลสนับสนุนก้าวย่างไปสู่เป้าหมายเดียวกัน นั่นคือเอกภาพทางความคิดของบรรดาขบวนการก่อการร้ายทั้งหลายที่มีความเป็นหนึ่งเดียวอย่างชัดเจน แม้แต่ละกลุ่มจะมีที่มาต่างกัน มีวิวัฒนาการการดำรงอยู่ของกลุ่มที่แตกต่างกัน หากแต่พวกเขาก็มีรากเหง้าเดียวกันและมีอุดมการณ์ทางความคิดแบบเดียวกัน และพวกเขาจะไม่มีทางจะขัดแย้งกัน ไม่มีทางที่จะต่อสู้กันเองเพราะนั่นจะทำให้ศักยภาพในการต่อสู้กับรัฐไทยของพวกเขาอ่อนแอลงอย่างมากจนกระทั่งพ่ายแพ้ต่อรัฐไทยในที่สุด เหล่านั้นจึงทำให้กลุ่มขบวนการร้ายเหล่านี้มีความกลมเกลียวกัน เพราะความต้องการในเป้าหมายเดียวกัน มีความยิ่งใหญ่กว่าวิธีการหรือหนทางเดินไปสู้เป้าหมาย พวกเขาจึงเป็นหนึ่งเดียวในความคิดสู่เป้าหมาย
ความหลากหลายของกลุ่มตรงข้ามกับรัฐมีทั้งกลุ่มขบวนการองค์การปลดปล่อยสหปัตตานี หรือพูโล (PULO) ที่เน้นการปลุกระดมมวลชนโดยมีกลุ่มเป้าหมายที่ผู้นำศาสนาและผู้นำท้องถิ่น และพัฒนามาเป็นกลุ่มพลโลกใหม่ ที่เน้นการต่อสู้ด้วยอาวุธ หรือจะเป็นกลุ่มขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี หรือที่เรียกกันว่าขบวนการ BRN ที่ปัจจุบันกลุ่มนี้มีความเข้มแข็งมาก มีขีดความสามารถในการรบแบบกองโจรด้วยกองกำลังติดอาวุธปลดแอกอิสลามปัตตานี ซึ่งเป็นทหารที่ถูกฝึกมาจากหน่วยรบพิเศษของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งปัจจุบัน แม้กลุ่ม BRN มีการแตกแยกออกเป็นหลายกลุ่ม หากแต่พวกเขายังคงเป็นหนึ่งเดียวทางความเชื่อและอุดมการณ์การต่อสู้กับรัฐ มุ่งมั่นร่วมกันไปสู่การได้มาซึ่งเอกราชของคนในดินแดนแห่งนี้ที่ชื่อปาตานี
สภาวการณ์ของการต่อสู้ในสมรภูมิปลายด้ามขวานแห่งนี้จึงอยู่ในสภาพที่กลุ่มขบวนการต่อสู้เพื่อเอกราชปาตานีมีความกลมเกลียวมีเอกภาพในความพยายามเป็นหนึ่งเดียวแม้จะมีวิถีการต่อสู้ที่แตกต่างกัน หากแต่เป็นการแยกกันเดิน ร่วมกันตีที่ไม่มีการขัดแย้งกันและกัน ทั้งยังส่งเสริมเกื้อกูลกันและกันให้ก้าวย่างสู่เป้าหมายของพวกขา เพื่อชัยนะต่อรัฐไทยด้วยความแย่งแน่เป็นหนึ่งเดียว การวิวัฒนาการของขบวนการดังกล่าวจึงไม่ส่งผลให้ศักยภาพการต่อสู้กับรัฐแผ่วเบาลงแม้แต่น้อย แกนนำใหม่หรือคนในกลุ่มใหม่ต่างก็สานต่ออุดมการณ์การต่อสู้สู่เป้าหมายเอกราชปาตานีร่วมกันโดยไม่มีการขัดแย้งแข่งขันเพื่อเอาชนะกันจนเสียผลใหญ่ ที่เป็นดังนี้ก็เพราะพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างมีเอกภาพนั่นคือเอกราชของคนในพื้นที่เป็นอุดมการณ์ร่วมกัน
ในทางตรงข้าม รัฐไทยกลับมีหลากหลายสำนักคิดที่มีความคิดความเชื่อและความนิยมในวิธีการต่อสู้กับขบวนการร้ายในพื้นที่ที่เป็นของตนเอง แต่ละกลุ่มสำนักคิดล้วนมีความเชื่อมั่นในแนวคิดและความเชื่อของกลุ่มตนเป็นหลักสำคัญแบบสุดโต่งซึ่งถูกฝังความเชื่อในแบบฉบับของกลุ่มตนที่ยากจะยอมรับแนวคิดความเชื่อของสำนักคิดของกลุ่มอื่นได้โดยง่าย ด้วยต่างฝ่ายต่างมีความรู้และประสบการณ์ที่เคยเรียนรู้จากการต่อสู้กับขบวนการร้ายในพื้นที่ปลายด้ามขวานที่ต่างมุมมอง ต่างบริบท ต่างตำแหน่งหน้าที่และต่างห้วงเวลาในการต่อสู้ ทำให้บางสำนักคิดเชื่อมั่นว่ากำลังต่อสู้กับขบวนการ BRN เป็นหลัก และเชื่อว่ากลุ่ม BRN เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงสุดในบรรดากลุ่มต่างๆ ที่กำลังต่อสู้กับรัฐ สำนักคิดกลุ่มนี้จึงเชื่อว่าต้องเปิดตัว BRN ให้ชัดเจนและเชื่อว่าหากเอาชนะกองกำลังติดอาวุธ BRN ได้ก่อน รัฐไทยก็จะเป็นฝ่ายได้ชัยชนะได้ทั้งหมด ในขณะที่อีกสำนักคิดหนึ่งเชื่อว่า ไม่ควรเปิดตัว BRN เพราะจะเป็นการยอมรับตัวตนของ BRN ให้เทียบเท่ารัฐ ซึ่งไม่เป็นผลดี ทั้งยังเชื่อว่าต้องเอาชนะที่การเจราจาสันติภาพกับแกนนำให้ได้ก่อนจึงจะเอาชนะกลุ่มเห็นต่างได้ เหล่านี้เป็นการต่อสู้ระหว่างสำนักคิดของรัฐเองที่ยังไม่ลงรอยกันจนลดทอนศักยภาพในการต่อสู้ของรัฐ การที่รัฐยังตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพไม่ได้ ไม่สามารถกำหนดนโยบายการแก้ปัญหาไฟใต้ได้ ก็เพราะการกระชากลากถูแย่งชิงการนำของสำนักคิดต่างๆ ของรัฐนั่นเอง ซึ่งนั่น หากจะเอาชนะโจรใต้ได้ รัฐเองต้องหลอมรวมความคิดของสำนักคิดต่างๆ ของรัฐ เพื่อสร้างเอกภาพทางความคิดในการต่อสู้กับขบวนการร้ายแห่งนี้ให้เป็นรูปธรรมให้ได้ก่อนเพื่อการย่างก้าวต่อไปอย่างทรงพลัง