กว่าจะได้เปิดซักฟอก นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ดูจะเป็นเรื่องยากลำบากไม่น้อย เพราะแม้ พรรคฝ่ายค้าน จะทำตามกฎ กติกา  มาตรา 151 ที่กำหนดให้ฝ่ายค้านเข้าชื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ก็ตาม 


 เพราะอย่าลืมว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ฝ่ายค้านยื่นซักฟอก แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว  ในขณะที่ตัวนายกฯอิ๊งค์ เองเธอไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อ รับแรงเสียดทาน หรือยืนประจันหน้ากับฝ่ายค้าน โดยให้ลามไปถึง พ่อ แม้ล่าสุด พรรคประชาชน ในฐานะแกนนำฝ่ายค้าน ได้ยอมถอดชื่อของทักษิณ ออกจากญัตติแล้ว โดยเปลี่ยนมาใช้คำว่า บุคคลในครอบครัว แทน 


 แต่เชื่อเถอะว่า หากอ่านใจ ทักษิณ และนายกฯอิ๊งค์ แล้วย่อมไม่ต้องการให้มีการซักฟอกกันกลางสภาฯ ด้วยซ้ำ และยิ่งเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน จะปิดประชุมสภาฯ สมัยสามัญ ในวันที่ 11 เม.ย.นี้แล้ว หากญัตติซักฟอก ไม่เกิดขึ้น จะเท่ากับว่าทุกอย่างจะปลอดโปร่ง ยาวไปอีก 3เดือน จนกว่าที่หัวหอกฝ่ายค้าน คือพรรคประชาชน จะเจอกับมรสุมจากกรณีร่วมกันลงชื่อเสนอแก้ไขกฎหมาย ม.112 โดยขณะนี้คำร้องอยู่ในมือ คณะกรรมการป.ป.ช.  


 อย่างไรก็ดี เมื่อเป้าหมายของฝั่งรัฐบาล โดยพรรคเพื่อไทย อยู่ที่การล้มญัตติซักฟอก แต่เมื่อไม่สำเร็จ เพราะพรรคประชาชน ยอมถอย ถอนชื่อทักษิณ ออก ดังนั้นที่จะต้องดำเนินการต่อคือประเด็นเรื่องการเจรจาต่อรอง จำนวนวัน ให้ฝ่ายค้านได้วันอภิปรายน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้นายกฯอิ๊งค์ และทักษิณ ต้องบอบช้ำกลางสภาฯ  เนื่องจากทักษิณ เองไม่สามารถเข้ามาชี้แจงได้ 


 วันที่ 19 มี.ค.68 นี้ตามกำหนดการนัดหมาย คือการหารือกันระหว่าง วิป3ฝ่าย  ประกอบด้วย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ  สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน  ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร มนพร เจริญศรี  รมช.คมนาคม ในฐานะวิปคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ วิสุทธิ์ไชยณรุณ  สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ซึ่งเป็นชุดเดิมที่เคยหารือกันไปแล้ว แต่ตกลงกันไม่ได้ไปเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา 


 เมื่อเห็นรายชื่อ ทั้งมนพร ในฐานะวิปครม. และวิสุทธิ์ ในฐานะวิปรัฐบาล จะพบว่าต่างอยู่ในพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน เท่ากับว่า พรรคประชาชน อาจถูกดดดันและเล่นเกม ลดจำนวนวัน ลงให้ได้มากที่สุด อีกรอบ   เพราะเมื่อเวลานี้ พรรคเพื่อไทย ยังคงตั้งธงเอาไว้ที่การซักฟอก ควรมีเพียงวันเดียว จากนั้นไปลงมติในวันถัดไป ซึ่งแน่นอนว่า เสียงโหวต ในฝั่ง พรรคร่วมรัฐบาล นั้นคงไม่มีปัญหา แต่สิ่งสำคัญ คือพรรคประชาชน จะจับนายกฯอิ๊งค์ และทักษิณ มาถล่มกลางสภาฯ ได้สำเร็จหรือไม่ และจะได้เวลาตามที่ต้องการหรือไม่ต่างหาก !