เราเชื่อว่าปัจจุบันชาวบ้านจำนวนมากยังไม่เข้าใจว่าบริษัทประชารัฐคืออะไร ? จะทำอะไร และทำอย่างไร ? จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุ่มเทประชาสัมพันธ์ และสร้างผลงานที่ “เข้าตา” ประชาชนให้มากขึ้น ในเว็บสานพลังประชารัฐ อธิบายสั้น ๆ ว่า บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี จำกัด คือวิสาหกิจเพื่อสังคม เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมา เพื่อทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม รายได้ของบริษัทมาจากส่วนแบ่งของรายได้ที่เพิ่มขึ้นของชุมชนที่ไปช่วยเหลือ ไม่มีการปันผลให้ผู้ถือหุ้น เงินของบริษัทเอาไว้ช่วยเหลือสังคมและชุมชน ทำไมต้องมี บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี จำกัด ? บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี จำกัด เป็นโครงสร้างใหม่ที่ให้ผู้แทนของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน มาร่วมกันทำประโยชน์โดยสามารถทำงานได้คล่องตัวภายใต้กรอบกฎหมายและหลักธรรมาภิบาล เช่นเดียวกับบริษัททั่วไปซึ่งจะทำให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ แล้วอะไรคือ “วิสาหกิจเพื่อสังคม” ? Social Enterprise หรือวิสาหกิจเพื่อสังคม มีหลักเข้าใจง่ายๆ 5 ประการ คือ มีเป้าหมายเพื่อสังคม ไม่ใช่เพื่อกำไรสูงสุด เป็นรูปแบบธุรกิจที่รายได้หลักมาจารการขายสินค้าและบริการ ไม่ใช่เงินจากรัฐหรือเงินบริจาค กำไรต้องนำไปใช้ขยายผล ไม่ใช่ปันผลเพื่อประโยชน์ส่วนตัว บริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล และจดทะเบียนเป็นรูปแบบบริษัท สรุปว่า บริษัทประชารัฐ เป็นองค์รูปธรรมตามหลักการ “วิสาหกิจเพื่อสังคม” มีตัวแทนของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน ร่วมกันบริหาร ในรูปแบบบริษัทหลักการอย่างนี้ ก็คล้ายคลึงกับหลักสหกรณ์ แต่สหกรณ์ในเมืองไทยนั้นค่อนข้างย่ำแย่ ที่ย่ำแย่นั้นปัญหาส่วนใหญ่มาจากการ “โกงกิน” หรือ คอร์รัปชัน ล่าสุดก็มีข่าวฉาวโฉ่การคอร์รัปชันในสหกรณ์ทั่วประเทศแพร่ออกมาอีกแล้ว ถ้าเมืองไทยสามารถสร้างระบบสหกรณ์ให้ดีงามเข้มแข็งได้จริง ก็คงไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องบริษัทประชารัฐ จำกัด ขึ้นมาอีก น่าห่วงว่า บริษัทประชารับ จำกัด จะเป็นแค่ “ของเล่น” ของผู้มีอำนาจชั่วคราว เมื่อมีผู้กุมอำนาจชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ “ของเล่น” ชิ้นนี้อาจจะถูกทิ้งไป ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ผู้คุมอำนาจขณะนี้ จำเป็นจะต้องแจ่มชัดว่า กำลังทำอะไรอยู่ ? จะฝังรากให้ระบบบริษัทประชารัฐ หรือวิสาหกิจเพื่อสังคม ให้มั่นคงยืนยาวในสังคมไทยจริงจังหรือไม่ ? ถ้าทำจริงก็ต้องปลุกระดมมวลชนกันมากกว่านี้ ต้องใส่ข้อมูล ใส่แนวคิดให้เข้าถึงชาวบ้านมากกว่าที่ผ่านมา และที่สำคัญคือ ต้องสร้างผลงานของบริษัทประชารัฐ ให้ “”โดนใจ” ชาวบ้านมากกว่าที่กำลังทำอยู่ ยกตัวอย่างผลงานที่ประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์สานพลังประชารัฐ มีเรื่อง “ผ้าขาวม้าท้องถิ่น หัตถศิลป์ไทย” ส่งเสริม “ผ้าขาวม้า” ดูจากเนื้องานก็ไม่ต่างอะไรจากงานสนับสนุนสินค้าโอท็อปทั่ว ๆ ไป , เรื่องผลักดันการผลิตลำไยแปลงใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ จัดหาตลาดในห้างสรรพสินค้า นี่ก็ยังเป็นผลงานเล็ก ๆ เท่านั้น , เรื่องช่วยชาวนาขายข้าว ก็เป็นแค่งานประชาสัมพันธ์แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น อีกปีกว่า ๆ ก็จะเกิดการเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาลกันใหม่ เหลือระยะเวลาให้รัฐบาลนี้แสดงฝีมือ ปลูกฝังเศรษฐกิจแบบ “วิสาหกิจเพื่อสังคม” อีกไม่มากแล้ว ขอให้ทุ่มเทสร้างผลงานให้หนักขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจให้ชาวบ้านหันมานิยมแนวทางเศรษฐกิจนี้