กลายเป็นเกมที่พลิกกลับมารุมเร้าทั้ง รัฐบาล-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตลอดจน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยอัตโนมัติ เมื่อการเลือกตั้ง ที่เคยวางกรอบกันเอาไว้ในวันที่ 24 ก.พ. มีอันต้องเลื่อนออกไป เพื่อไม่ให้กระทบต่องานพระราชพิธี ที่จะมีขึ้นในต้นเดือนพ.ค.นี้ แม้ฝ่ายกกต.และรัฐบาลเองจะพยายามย้ำและยืนยันอยู่หลายต่อหลายครั้งว่า การเลื่อนวันเลือกตั้งนั้นเพราะมีเหตุผล และที่สำคัญไม่มีความคิดที่จะ “ล้มการเลือกตั้ง” เพื่อหาทาง “อยู่ยาว” ก็ตาม แต่ถึงกระนั้นนี่คือ “โอกาสทอง” ที่ฝ่ายต่อต้านวันเลือกตั้ง จะพากันออกมาเคลื่อนไหว เพื่อกดดันไปยังคสช. หากจะบอกว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียว แต่ได้นกหลายตัวก็คงไม่ผิดนัก เพราะดูเหมือนว่า ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ประเด็นที่ว่าด้วยการคัดค้านการเลือกตั้ง ได้กลายเป็น “ชนวน” ที่ปลุกให้ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ตลอดจน เครือข่ายแนวร่วม ทั้งกลุ่มบุคคล ไปจนถึงพรรคการเมืองอย่างพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักษาชาติ พากันออกมา “ถล่ม” ในจังหวะเดียวกัน เสมือนนัดหมาย แม้ล่าสุด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะออกมาแสดงความเชื่อมั่นแล้วว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่กำลังจัดอีเว้นท์ อย่างต่อเนื่องเวลานี้ จะไม่เกิดเหตุบานปลาย จนกระทบต่อการเลือกตั้งอย่างแน่นอน “การเคลื่อนไหวของกลุ่มคัดค้านรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ขอความร่วมมือผู้ชุมนุมจะต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ขณะที่เจ้าหน้าที่เองจะมีความจำเป็นที่ต้องอาศัยกฏหมายในการดูแลเพื่อให้เกิด ความสงบ เรียบร้อย” (7 ม.ค.2562) ขณะที่คสช.และกกต.กำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากฝ่ายที่เรียกร้องไม่ให้เลื่อนเลือกตั้ง และพร้อมที่จะเพิ่มระดับความรุนแรงของการเคลื่อนไหว เพื่อทดสอบกำลังของคสช.ว่าจะสามารถดูแลรักษาความสงบได้มากแค่ไหน ล่าสุดกลับกลายเป็นว่า “ พรรคสาขา” ของ “ทักษิณ ชินวัตร”อดีตนายกฯ อย่าง “พรรคเพื่อชาติ” ได้ส่งหัวหมู่ทะลวงฟันทั้ง “ยงยุทธ ติยะไพรัช” และ “จตุพร พรหมพันธุ์” ปราศรัยกับประชาชนที่อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ขอโอกาสพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันพา ทักษิณ กลับบ้าน "เราได้พยายามให้ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาประเทศไทย 3 ครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ จึงขอโอกาสครั้งนี้ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่ 4 หากได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนเลือกพรรคเพื่อชาติ ที่สำคัญจุดอ่อนที่สำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นรัฐธรรมนูญที่ถอยหลังเข้าคลอง โดยเฉพาะที่มาและอำนาจของ ส.ว. ทำให้พรรคการเมืองไม่มีความมั่นคง และทำลายขีดความสามารถของคนไทย เช่น คนๆ หนึ่งแสดงความคิดเห็นที่ดี แล้วมีพรรคการเมือง นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ก็จะถูกตีความว่าเป็นบุคคลภายนอกชี้นำพรรค อาจถูกยุบพรรคได้ ทำให้คนเก่ง คนดีขาดโอกาส" ยงยุทธ ประกาศบนเวทีปราศรัย แน่นอนว่าการปลุกเร้ามิตรรักแฟนคลับ ของทักษิณ โดยพรรคเพื่อชาติ ครั้งนี้ย่อมไม่ใช่เพราะกลอนพาไป หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว “พรรคสาขา” ของพรรคเพื่อไทย เองทั้งไทยรักษาชาติ และเพื่อชาติ เองย่อมประเมินสถานการณ์การต่อสู้ได้ดี ว่า วันนี้กระแสของทักษิณ นั้นอยู่ในขั้นฟีเวอร์ เหนือกว่าพรรคพลังประชารัฐ และหากต้องการตีเหล็ก ก็ต้องตีในยามร้อน ยามนี้ เพราะทั้งรัฐบาล คสช.กำลังวุ่นวายอยู่กับการตอบคำถามเรื่องการเลื่อนเลือกตั้ง จนทำให้เกิดเป็น “จุดอ่อน” ที่ทำให้ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ใช้เขย่า อยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนพรรคสาขาก็ทำหน้าที่ ทวงคืนพื้นที่ให้กับ ทักษิณ งานนี้ คสช.จะแก้เกมอย่างไร โปรดอย่ากะพริบตา !