ดูเหมือนภารกิจในมือของ “นายใหญ่” ยังไม่จบ เมื่อผลการเลือกตั้งสมาชิกและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่ผ่านมาของ “พรรคเพื่อไทย” ยังไม่เข้าเป้า แม้จะมีบางคนในพรรคสีแดงยังปลอบใจตัวเองว่าผลลัพธ์ เที่ยวนี้ ถือว่าดีแล้ว ก็ตาม
การที่พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครชิงนายกอบจ. ด้วยกันทั้งหมด 16 จังหวัด และทำไปได้ 10 จังหวัดนั้นได้ถูกนำไปวิเคราะห์และสังเคราะห์ออกมาว่า เหตุแห่งความพ่ายแพ้มาจากอะไร เพราะตัวเลข 10 ที่นั่งนายกอบจ.ที่พรรคเพื่อไทย ทำได้นั้นคือการสะท้อน ไปถึง “ความนิยม” ของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรค
ถือว่าอยู่ในภาวะถดถอย จนอาจทำให้ทักษิณ ไม่สามารถทวงความยิ่งใหญ่ให้พรรคเพื่อไทย กลับไปเป็นเหมือนในอดีต เช่นเดียวกับ “รัฐบาลไทยรักไทย” ได้ตามมาหรือไม่
หลังจบการเลือกตั้งอบจ .เมื่อวันที่ 1 ก.พ.68 พรรคเพื่อไทย และรวมไปถึง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ต่างต้องรับมือกับแรงเสียด ทั่วสารทิศ ขณะที่ผู้ช่วยหาเสียงอย่างทักษิณ เองต้องบินไปมาเลเซีย ตามคำเชิญของ “อันวาร์ อิบราฮิม” นายกฯมาเลเซีย
และเมื่อทักษิณ กลับมาถึงประเทศไทยแล้ว แน่นอว่าภารกิจภาคต่อ ในทางการเมือง คือการกลับมาสะสาง ปัญหา “ศึกใน” ของพรรค เนื่องจากหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้พ่ายแพ้ นายกอบจ. โดยเฉพาะในจังหวัดที่หมายมั่นปั้นมือ นั้นมาจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองภายในพรรคด้วยกันเอง เมื่อเกิดความขัดแย้ง จึงมีรายการเกียร์ว่าง ตามมา
หนึ่งในจังหวัดที่มีปัญหาคือเชียงราย ที่มีรายงานว่า กลุ่มก๊วนการเมืองในเชียงราย มีความขัดแย้งกับกลุ่มของ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่รอบนี้ส่งภรรยา คือ “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” อดีตนายก อบจ.เชียงราย ลงสนาม และอย่าลืมว่า ทักษิณ ไปลงพื้นที่ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยสลักจฤฎดิ์ ถึง2ครั้ง แต่สุดท้าย ไม่สามารถเอาชนะ “อทิตาธร วันไชยธนวงศ์” ผู้สมัครจากค่ายสีน้ำเงิน พรรคภูมิใจไทยไปได้
ในความจริงแล้ว ปัญหาความบาดหมางในพรรคเพื่อไทย ใช่ว่าจะมีแต่ “กลุ่มก๊วนการเมือง” ที่งัดข้อกันเองเท่านั้น เพราะในสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น จากการหาเสียง ที่ผ่านมา มีการตั้งข้อสังเกตว่า “คนเสื้อแดง” ที่เคยเทใจให้ทักษิณ ในอดีตนั้น ณ วันนี้กลับคืนมามากน้อยแค่ไหน
ผลการเลือกอบจ. เมื่อวันที่ 1ก.พ.68 กำลังสะท้อนสภาพเป็นจริงที่เกิดขึ้นทั้งต่อพรรคเพื่อไทยและตัวอดีตนายกฯทักษิณ ด้วยกันหลายมิติ โดยเฉพาะ “จุดอ่อน” ที่ต้องเร่งขจัด เร่งเคลียร์ความขัดแย้ง ของ “ลูกน้อง” ไม่ให้บานปลาย และกลายเป็นว่า มาทำลายกันเอง !