แม้ยังอยู่ร่วมกันในรัฐบาล อิ๊งค์ 1 ในฐานะ พรรคร่วมรัฐบาล โดยมี พรรคเพื่อไทย เป็น แกนนำ แต่ย่อมไม่ได้หมายความว่า ภูมิใจไทย พรรคสีน้ำเงิน อันมี เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค จะคล้อยตาม หรือ โยนผ้า ในการเลือกตั้งสนามท้องถิ่น
ในทางตรงกันข้าม ยังกลายเป็นว่า การเลือกตั้งสมาชิกและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68นี้ ถือเป็น สนามประลอง และทำให้เห็นภาพการดำรงอยู่ในทางการเมืองระหว่าง พรรคเพื่อไทยที่มี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะ ผู้ช่วยหาเสียง ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย แม้จะมีอนุทิน นั่งอยู่ในตำแหน่ง หัวหน้าพรรค แต่ทุกคนรู้ดีว่า เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ฯ คือ ตัวจริง ที่โลว์โปรไฟวล์
สนามการต่อสู้ชิงเก้าอี้นายกอบจ.ศรีสะเกษ คือหนึ่งพื้นที่ทั้งสองพรรค จะไม่มีใคร ยอมถอย ให้ใคร และยังถือเป็น ศึกศักดิ์ศรี วัดบารมีทั้ง ทักษิณ และเนวิน อย่างชัดเจน โดยเฉพาะทักษิณ เองที่ไม่สามารถ แพ้ ในสนามเลือกตั้งอบจ.ที่เชียงใหม่ ด้วยเป็น บ้านเกิด ได้ฉันใด ก็อฉันนั้น
พรรคภูมิใจไทย แม้ไม่ได้ส่งผู้สมัคร ลงสนามในนามพรรค แต่มีหรือที่จะไม่มีใครรับรู้ว่า วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ในนามกลุ่มฅนท้องถิ่น นั้นสวมเสื้อสีน้ำเงิน และต้องไม่ลืมว่า ลูกสาว ของวิชิต คือ ไตรศุลี ไตรสรณกุล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นั้นเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และมีตำแหน่งเป็น เลขาฯมท.1 ทำงานกับอนุทิน
ขณะที่พรรคเพื่อไทยเอง รอบนี้ได้ ผู้ช่วยหาเสียง เป็นถึง บิ๊กเนม อย่างทักษิณ ลุยหาเสียงช่วยลูกพรรค คือ วิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ที่เสนอตัวลงมาชนกับ วิชิต
การเลือกตั้งนายกอบจ.ศรีสะเกษ กลายเป็น สมรภูมิย่อย ที่ยังต้องรอดูว่าผลจากการแพ้-ชนะ ของผู้สมัครสองพรรคใหญ่ ผ่านพ้นไปแล้ว พรรคสีแดงหรือพรรคสีน้ำเงินจะเข้าวิน แต่ต้องยอมรับว่า ตลอดห้วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงที่ผ่านมา พื้นที่ศรีสะเกษ ถือว่าดุเดือด และคะแนนของตัวผู้สมัครนั้นค่อนข้างสูสี ส่วน การที่ทักษิณ ลงมาลุยเอง จะทำให้ แต้ม ของวิวัฒน์ชัย ดีดขึ้นมาก่อนวันหย่อนบัตรได้หรือไม่ ก็ตาม แต่ทุกคนรู้ดีว่า ฉากหลังของการต่อสู้คือ เดิมพันระหว่าง ทักษิณ และ ลูกน้องเก่าที่ชื่อ ครูใหญ่เนวิน !