หากจะบอกว่ารัฐบาลกำลังเมาหมัดก็คงไม่ถูกนัก นอกจากบอกว่าครม.เกือบทั้งคณะกำลังคลุกไปกับ "ฝุ่น"  ที่กำลังเป็นวิกฤตทั้งกทม.ลุกลามไปยังอีกหลายจังหวัด  โดยที่มาตรการระยะแก้ไขสถานการณ์ที่ออกมา ยิ่งทำให้เกิดคำถามและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไล่หลัง ว่าถูกจุดหรือไม่ ?

เสียงเรียกร้องจาก "ณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ"  สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ที่ส่งตรงไปยัง "แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ขณะที่อยู่ในระหว่างการเข้าร่วมประชุม World Economic Forum 2025 ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ แม้ด้านหนึ่ง จะถูกมองว่า เป็นการจงใจโจมตีรัฐบาลจาก "ผู้นำฝ่ายค้าน"  แต่ต้องยอมรับว่า "ผลลัพธ์" ที่เกิดขึ้นตามมานั้น "ได้ผล" เมื่อ นายกฯแพทองธาร เปิดการประชุมทางไกล กับรัฐมนตรีในทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง พร้อมย้ำว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ 

อย่างไรก็ดี ทางด้าน จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล ออกมายืนยันว่า เรื่องนี้รัฐบาลได้มีข้อสั่งการ ให้ส่วนราชการทุกส่วนที่ได้ร่วมประชุม ทั้งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และคณะทำงานส่วนราชการในการแก้ไขฝุ่นควัน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนการเดินทางร่วมประชุม World Economic Forum Annual Meeting 2025 ที่ดาวอส ด้วยซ้ำ 

เมื่อล่าสุด นายกฯแพทองธาร เดินทางกลับมาถึงไทยเมื่อวันเสาร์ที่ 25 ม.ค. เจ้าตัวย้ำว่าเรื่องฝุ่นไม่ใช่แค่ วาระแห่งชาติ แต่เรื่องนี้ถูกยกระดับขึ้นไปสู่ วาระแห่งอาเซียน แล้ว โดย มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ต้องไปพูดคุยขอความร่วมมือตามกรอบความร่วมมือของอาเซียน 

และเมื่อย้อนกลับไป ในระหว่างที่นายกฯ ยังอยู่ระหว่างประชุมที่เมืองดาวอส ปรากฏว่า สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม แถลงมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ใน กทม.  ว่า นายกฯสั่งการให้กระทรวงคมนาคมและส่วนงานราชการอื่นๆสนับสนุนการแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ใน กทม. ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค.

โดยให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า ขสมก.ฟรี รวม 7 วัน แต่หากครบ 7 วันแล้วถ้าค่าฝุ่นยังไม่ลด จะมีการประเมินอีกครั้งว่าจะขยายระยะเวลาออกไปอีกหรือไม่ สำหรับมาตรการดังกล่าว รัฐบาลจะชดเชยเงินโดยใช้จากงบกลาง ประมาณ 140 ล้านบาท 

อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่ามาตรการดังกล่าวนอกจากจะไม่การันตีว่าจะตอบโจทย์ แก้ปัญหาได้ตรงจุดหรือไม่แล้ว ยังถูกท้วงติงจากหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายการเมือง ไปจนถึงนักวิชาการโดยเฉพาะการนำเงินไปเตรียมชดเชยให้กับ เอกชน ถึง 140 ล้าน

และล่าสุดเมื่อเรื่องนี้จะต้องถูกชงเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมครม.28 ม.ค.นี้ยังลุ้นกันต่อว่า พรรคร่วมรัฐบาล จะเห็นตามกันด้วยหรือไม่ !