เนเวอร์ดาย !

เวทีการเมืองจะปล่อยให้ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯคนที่ 23 ยึดครองไปเสียคนเดียว ก็คงกระไรอยู่ ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จัดกิจกรรมสัมมนาของพรรคขึ้นที่หัวหิน แม้จะไม่หวือหวือ แต่ก็ทำให้ “กองเชียร์” ของ “ลุงป้อม” ได้หายคิดถึงกันบ้าง

ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งนายกอบจ. ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 นี้ ยิ่งทำให้ ทักษิณ ต้องออกแรงปราศรัยด้วยความดุเดือด ในแต่ละวันต้องเดินสายไปหลายเวที เพื่อช่วยลูกพรรคหาเสียง ด้วยหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถ กวาดที่นั่งนายกอบจ. เพื่อยึดครองฐานการเมืองระดับล่าง เอาไว้ในมือให้มากที่สุด

ขณะที่ทางด้าน บิ๊กป้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งบัดนี้เหลือสส.ในมืออยู่เพียง 20 สส.เท่านั้น หลังจากที่เจอกลยุทธ์ตีค่ายจนแตกจาก ทักษิณ แยกกลุ่มร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เอาไปอยู่ที่พรรคกล้าธรรม ทำหน้าที่เป็นเสมือนพรรคอะไหล่ให้กับพรรคเพื่อไทย ทั้งเอาไว้ขู่เอาไว้ปลอบ “พรรคร่วมรัฐบาล” ในคราวเดียวกัน

เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา บิ๊กป้อม พาลูกพรรคไปจัดงานสัมมนา ประจำปี 2568 ภายใต้หัวข้อ “Now & Next พรรคพลังประชารัฐ“ ที่โรงแรมซี แซนด์ ซัน หัวหิน รีสอร์ท จ.ประจวบคีรีขันธ์  โดยงานนี้บิ๊กป้อม ได้กล่าวกับลูกพรรคบางช่วงบางตอนว่า  ในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา การเมืองของประเทศเราได้กลับไปสู่รูปแบบเดิมๆ เป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ทำลายกันเพื่อผลประโยชน์ ขาดคุณธรรม และจริยธรรม ไม่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง

“พรรคพลังประชารัฐ แม้จะตกเป็นเป้าทางการเมืองเสมอมา แต่ผมขอยืนยันว่า ตัวผมเองและพรรคของเรายังคงเดินไปข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์และมั่นคง”

และยังกล่าวในตอนท้ายว่า การสัมมนาในวันนี้เป็นการแสดงจุดยืน ในการทำงาน ทางการเมืองด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับประเทศชาติ และประชาชน “ผมยืนยันว่า จะทำหน้าที่ ให้ดีที่สุด เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนา เจริญรุ่งเรือง พี่น้องประชาชน อยู่ดี กินดี มีความเป็นอยู่ ที่ดีขึ้น”

ความเคลื่อนไหวจากบิ๊กป้อม ที่เลือกขยับนอกสภาฯ แม้จะไม่ชัดว่าต้องการพุ่งเป้าไปที่การตอบโต้ทักษิณ ซึ่งบัดนี้กลายเป็นคู่แค้นกันไปแล้วนั้น แต่อย่างที่สุดการออกมาเทคแอคชั่นของบิ๊กป้อม  เพื่อลดกระแส ข่าวลือในทางลบต่อพรรคให้มากที่สุด และพยายามตอกย้ำว่า แม้ วันนี้ ป.บิ๊กป้อม จะเหลืออยู่เพียงคนเดียววันนี้ในสังเวียน แต่วันนี้ยังไม่ใช่ ฉากจบทางการเมืองตามที่ ฝั่งตรงข้ามต้องการเขียนบทเอาไว้ !