นับถอยหลังจากวันนี้เหลืออีกเพียงไม่กี่วัน ศึกเลือกตั้งอบจ. ที่เตรียมเปิดฉาก ทั่วประเทศ ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68นี้ เท่ากับว่า ทั้ง ผู้สมัคร และแต่ละพรรคการเมืองที่ส่งตัวแทนลงสนาม จะมีเวลา ลุยหาเสียง กันอีกไม่กี่อึดใจแล้ว !
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ตัวเล่นหลัก ของพรรคใหญ่ จึงต้องออกแรง ลงพื้นที่กันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน พรรคสีส้ม ที่ยังคงมีความพยายามชิงเก้าอี้สมาชิกและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แม้ที่ผ่านมา พรรคสีส้ม แทบไม่ได้เลยสักเก้าอี้เดียว จากการเลือกตั้งซ่อมนายกอบจ.ที่มีขึ้นไปก่อนหน้านี้
จะด้วยเพราะ พรรคประชาชน ยังมีความหวังว่า ผู้สมัคร จะอาศัย กระแสนิยม จาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค ตลอดจนแกนนำพรรคประชาชน ฝ่าด่านพรรคการเมืองใหญ่ที่มี บ้านใหญ่ เป็นฐานเสียงดั้งเดิมอยู่แล้ว หรือจะด้วยเพราะพรรคสีส้มเองก็ประเมินได้ว่า หลังพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล ล่วงเข้าสู่ปีที่ 2 ยังไม่สามารถกวาดคะแนนนิยมมาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
เมื่อพรรคสีส้มประเมินสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย ออกก็คงเป็นเรื่องไม่ยากที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยและมีผลต่อการเดินหน้าบริหารงานของ รัฐมนตรี ในสังกัดพรรคเพื่อไทย จะอ่านเกมออกได้เช่นกัน ว่าลำพังหากจะให้ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุยเดี่ยว ทั้งงานที่พรรคเพื่อไทย และงานในฐานะรัฐบาลไปตามลำพังคงเอาชัยได้ยากเย็น
สิ่งที่รัฐบาลพรรคไทยรักไทย เคยทำเอาไว้ในอดีตคือการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ การปราบปรามยาเสพติด จึงต้อง ขยับ กันใหม่อีกรอบ โดยอาศัยการที่พรรคเพื่อไทย ได้ทำหน้าที่รัฐบาล ฝ่ายบริหาร เพื่อผลักดันให้นโยบายที่มีส่วนสำคัญต่อการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
ด้วยเหตุนี้จะพบว่า นอกเหนือไปจากการเคลื่อนไหว ทางการเมือง ลุยหาเสียงให้ผู้สมัครชิงนายกอบจ.แล้ว ทักษิณยังสวมบท คอนดัคเตอร์ ให้สัญญาณขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยมี รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ขานรับ ล่าสุด ทักษิณ พูดตอนหนึ่งในงาน Dinner Talk Chat with Tony: Bull Rally of Thai Capital Market ว่าเขารู้สึกเศร้าใจ
เห็นมาเลเซีย จีดีพีโต 5.6% แต่ประเทศไทยโต 3% และมีคนบอกว่าคงได้เพียง 2% กว่าเท่านั้น โดยส่วนตัวมองว่าน่าจะโตได้ 3% ซึ่งปีนี้ 2568 นี้เราต้องทำให้ได้ 4% ส่วนปี 2569 ต้องทำให้ได้ 5% ไม่ว่าจะวิธีไหนแต่เราต้องทำให้ได้ (13 ม.ค.68)
จากนี้ต้องจับตาว่า เมื่อทักษิณส่งสัญญาณ รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย จะสนองตอบ ขานรับและเดินตามต่ออย่างไร อย่าลืมว่า หากสามารถกู้วิกฤติเศรษฐกิจได้สำเร็จจริง โอกาส และ คะแนนนิยม จะอยู่ในมือพรรคเพื่อไทยทันที !