การส่ง แพทองธาร ชินวัตร เข้ามานั่งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31  นานกว่า 90 วัน ดูเหมือนว่า ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพ่อ น่าจะประเมินสถานการณ์และ อ่านขาด ได้แล้วว่า ลูกสาวคนเล็ก ไม่สามารถรับมือกับแรงกดดันทั้งในและนอกรัฐบาลได้ตามลำพังอีกแล้ว 


 ยิ่งเมื่อการเมืองช่วงส่งท้ายปี กลับเต็มไปด้วยความเข้มข้น รัฐบาล แพทองธาร 1 บริหารงานไปในท่ามกลางความหวาดระแวง ทั้ง คำร้อง ที่เกี่ยวพันกับตัวนายกฯแพทองธารเอง และปัญหา ชั้น 14 กรณี ป่วยทิพย์ ของทักษิณ ผสมปนเปไปกับการเคลื่อนไหวของ มวลชน นอกทำเนียบฯ ที่นำโดยกลุ่มคนรักชาติ และแนวร่วมที่นัดหมายหารือ ด้วยความเป็นห่วงบ้านเมือง 

 แม้กลุ่มมวลชน จะแตกกันกันที่แนวทาง และที่มา แต่ทั้งแนวร่วมคนรักชาติ อาจไปผนึกกับม็อบที่กำลังก่อตัวโดย สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ด้วยเป้าหมายเดียวกัน คือ ต่อต้านระบอบทักษิณ 

 ขณะเดียวกัน นโยบายเรือธงของรัฐบาลเพื่อไทย สามารถเกิดผลชัดเจนอยู่ที่การ แจกเงินหมื่น ผ่านพ้นไปเพียง เฟสที่ 1 ให้กับกลุ่มเปราะบาง และคนพิการ  ส่วนนเฟส ที่2จะตามมาในปีหน้า 2568  แต่วาระอื่นๆยังคง ชะงัก  รอจังหวะผลักดันกันต่อ เมื่อแรงต้านลดระดับลงเท่านั้น 

 อย่างไรก็ดี ตลอดหลายเดือนมานี้ ยังไม่ปรากฏว่า พลังของ นายกฯหญิง จากแพทองธาร นั้นมีน้ำหนักมากพอ  ที่จะตรึง พรรคร่วมรัฐบาล เอาไว้ จนมีคำถามเรื่องเสถียรภาพรัฐบาลมาก่อนหน้านี้ จนทำให้ล่าสุดทักษิณ ต้อง น็อตหลุด  พูดพาดพิงพรรคร่วมรัฐบาล ที่ทำตัวไม่ใช่ เลือดสุพรรณ 

 ระหว่างที่มือข้างหนึ่ง ของทักษิณ ต้องทำหน้าที่ปกป้องลูกสาว อย่างนายกฯแพทองธาร ด้วยการเปิดหน้าชนกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยอาศัยวงสัมมนาสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่หัวหิน ที่ผ่านมาเป็น พื้นที่ ส่งสาร ผ่านสื่อสาธารณะ ยังน่าสนใจว่า วันนี้ คิวเดินสาย ของทักษิณ เพื่อลงไปลุยหาเสียงช่วยลูกพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้ง สนามท้องถิ่น ถูกเซ็ตอัพขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

 จากการหาเสียงช่วยลูกพรรคที่สนามเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี ไปสู่ อุบลฯ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.67ที่ผ่านมา ช่วย กานต์ กัลป์ตินันท์ มีพี่น้องคนเสื้อแดงแห่ไปต้อนรับจนล้นสนามบิน และล่าสุด มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 23-25 ธ.ค.นี้ เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ  สว.ก๊อง พิชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีตนายกอบจ.เชียงใหม่  

 การเดินสายหาเสียงของทักษิณลักษณะเช่นนี้ ไม่ต่างจากการที่ต้องลงมา รบ ในระดับพื้นที่ด้วยตัวเอง แต่เหนืออื่นใด เมื่อประเมินสรรพกำลัง ศัตรู อย่าง พรรคภูมิใจไทย ที่แม้ขาข้างหนึ่งจะอยู่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน แต่ทักษิณ เองรู้ดีว่า พรรคสีน้ำเงิน พร้อมที่จะผงาดขึ้นมาแทนเพื่อไทยได้ทุกเมื่อ ทั้งการเมือง ระดับท้องถิ่น การเมืองสนามใหญ่  อย่างน้อยที่สุด วันนี้ก็มี สว.สายสีน้ำเงิน เอาไว้ในมือ เป็นขุมอำนาจ ที่พรรคเพื่อไทย ยากจะตีให้แตก  !