จากประเด็นที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงสื่อหลังโดนดรามาถล่ม ว่าผู้นำรัฐบาลละเลย “พี่น้องชาวภาคใต้” ที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมอย่างหนักในหลายจังหวัด โดยยังไม่ทันข้ามวัน ปรากฏว่า นาทีนี้ “นายกฯอิ๊งค์” กลับยิ่งถูกโจมตีหนักมากขึ้น
นายกฯแพทองธาร ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อวันที่ไปปฏิบัติภารกิจทั้งประชุมครม.สัญจรที่เชียงใหม่ ตรวจเยี่ยมติดตามงานที่จ.เชียงราย โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ละเลย ต่อสถานการณ์น้ำท่วมหนักที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญแต่อย่างใด และยังอธิบายด้วยว่าตั้งแต่เกิดเรื่อง ได้ส่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ภาคใต้ไปแล้ว
และการที่จะตัดสินใจลงพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมนั้น ต้องดูสถานการณ์ก่อน เพราะเจ้าหน้าที่ที่จะต้องมาต้อนรับอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม หากลงไป ต้องมีขั้นตอนการต้อนรับ ทั้งนี้ หากสถานการณ์เรียบร้อยสามารถไปได้ก็จะลงพื้นที่เลย
“ คำว่าละเลยภาคใต้ สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ ไม่รักคนใต้ แต่งงานคนใต้ไม่ได้นะค่ะ และวันที่เกิดเรื่องทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายภูมิธรรม แจกจ่ายงานประสานทั้งหมด
ตั้งแต่กลางคืนไลน์คุยกัน โทรคุยกัน ทำทุกอย่าง แต่การมาการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ เราวางแผนกันเป็น เดือนเพื่อมาฟื้นฟูพื้นที่ภาคเหนือ” (1 ธ.ค.67)
อย่างไรก็ดีการตอบคำถามสื่อ ในลักษณะดังกล่าว ด้วยการพูดเรื่องส่วนตัวกลับไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ในทางตรงกันข้าม ปรากฏว่านายกฯแพทองธาร ถูกถล่มหนักกว่าเดิม แม้งานนี้ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกมาปกป้องว่าที่นายกฯพูดนั้น กำลังสื่อให้เห็นว่า ไม่ทิ้งคนใต้ รัฐบาลไม่มีแบ่งภาค และเป็นการพูดเพื่อเชื่อมโยงบางมุมเท่านั้น
แต่กลายเป็นว่า การออกมาปกป้อง “นายน้อย” โดยณัฐวุฒิ นั้นแทบไม่เป็นผลที่น่าพอใจนัก เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว “กระแสลบ”จากประเด็นนี้คงซาไป และไม่ถูก “ขยายแผล” ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ “ผู้นำรัฐบาล” ของนายกฯแพทองธาร เอง
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าแม้ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ผู้เป็นพ่อ จะสนับสนุนและผลักดันให้มาเป็นนายกฯ พร้อมทั้งตั้งคนทำงานในมือเข้ามาเป็น “ที่ปรึกษา” แต่ด้วยความที่แพทองธาร มีความเป็นตัวของตัวเธอเองสูง อีกทั้งเมื่อคนที่แวดล้อม ล้วนแล้วมาจากลูกน้องของอดีตนายกฯทักษิณ การปรึกษาหลายเรื่องที่ผ่านมาจึงไม่ค่อยเกิดขึ้น
ขณะที่อดีตนายกฯทักษิณ เองยังมีภารกิจใหญ่ที่จะต้องพา “เพื่อไทย” กวาดแต้ม เก็บเก้าอี้ “นายกอบจ.” ให้ได้มากที่สุดในการเลือกตั้งอบจ.ปีหน้า 2568 !!