“เพื่อไทย” คิดใหญ่ ยึด “สนามอบจ.” ! 

 ในระหว่าง “การบ้าน” กำลังส่อเค้าวุ่น แต่สำหรับ “พรรคเพื่อไทย” แล้วสิ่งที่ต้องเร่งเดินหน้ากันต่อ นั่นคือ “การเมือง” เพราะในจังหวะนี้ พรรคอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังได้เปรียบ ทั้งการอยู่ในอำนาจรัฐ และที่สำคัญคือ “พรรคสีส้ม” ยังไม่สามารถตีตื้นเอาชนะ การเมือง “สนามเล็ก” ระดับท้องถิ่นได้แต่อย่างใด 

    ชัยชนะจากการเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี ที่ผ่านมา คือภาพสะท้อนที่แจ่มชัดว่าพรรคประชาชน ยังต้องเหนื่อยหนัก หากยังคิด “สู้ยาว” ในขณะที่ “แกนนำระดับแม่เหล็ก” นั้นแทบไม่เหลืออยู่ในพรรค ขณะที่ พรรคเพื่อไทยเอง เมื่อ “ศราวุธ เพชรพนมพร” ผู้สมัครของพรรค สามารถเอาชนะ ผู้สมัครจากพรรคประชาชนได้ไม่ยาก เพราะคะแนนทิ้งห่างกันอย่างเห็นได้ชัด 

    แต่สิ่งที่สะท้อนลึกไปถึงเบื้องหลังชัยชนะของศราวุธ รอบนี้ นอกจากความเป็นแชมป์เก่าแล้ว อย่าลืมว่างานนี้ได้ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทย ลงไปช่วยหาเสียง กระตุกเสียง “คนเสื้อแดง” ให้กลับมาอยู่ในมือเช่นเดิม และชัยชนะรอบนี้ยังทำให้พรรคสีส้มได้เห็นว่า การเมืองสนามเล็ก ระดับท้องถิ่นนั้น “กระแส” อาจจะใช้ไม่ได้มากนัก  เมื่อรูปแบบ “บ้านใหญ่” ยังมีอิทธิพลอยู่เหมือนเดิม 
    
จากชัยชนะสนามอบจ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 24 พ.ย.67 ที่ผ่านมา จากนี้พรรคเพื่อไทยจะต้องต่อยอดเพื่อกวาดเอาเก้าอี้นายกอบจ.เอาไว้ในมือให้มากที่สุด เพราะนี่คือ “ฐานเสียง” ชั้นดี ด้วยเหตุนี้ในการเลือกตั้งอบจ.ทั่วประเทศที่มีจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.ปีหน้า 2568 
    
“ประเสริฐ จันทรรวงทอง”  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า การชนะที่อุดรฯ  ทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับความนิยมและประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะฉะนั้น ในการส่งผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยในแต่ละที่ พรรคก็มีความมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ
    
“จากนี้ไปจะเป็นการเลือกตั้งใหญ่ในสนาม อบจ.แล้ว ซึ่งเป็นการเลือกตั้งตามรอบที่นายก อบจ. ส่วนใหญ่สิ้นสุดตามเทอม 4 ปี ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568  
    
โดยในส่วนของพรรคเพื่อไทย จะมีหลายสนามที่จะส่งและเชื่อว่าจะเป็นการส่งมากที่สุดในการเลือกตั้ง อบจ. ของพรรคเพื่อไทย”  (28 พ.ย.67) 
    
สิ่งที่จะได้เห็นในระยะเวลาอันใกล้นี้ น่าจะอยู่ที่ความเคลื่อนไหวของทักษิณ ที่จะเดินสายช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครนายกอบจ.ของพรรคในสนามใดอีก เพราะจะมีการเลือกตั้งนายกอบจ.ที่อุบลราชธานี ในราวปลายเดือนนี้ รวมทั้งยังมีสนามเชียงใหม่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตระกูลชินวัตร ซึ่งแน่นอนว่า พรรคเพื่อไทยจะต้องปิดประตูแพ้สถานเดียว !