คดีดังกรณีผู้บริหารหรือ บรรดาบอส ดิไอคอน กรุ๊ป ถูกกล่าวหาหลอกให้ลงทุนและหาลูกข่ายมาเป็นสมาชิก โดยไม่ได้ขายสินค้าจริง โดยมีการสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการนำดารานักแสดงชื่อ โดยผู้ต้องหา 18 คน ถูกออกหมายจับ ส่งฝากขังศาลเข้าเรือนจำ ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และข้อหาหลอกลวงหรือทุจริตโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเพื่อหาผู้เกี่ยวข้อง และแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มเติมนั้น
ล่าสุด มีกระแสข่าวว่า อาจมีการแจ้งข้อหากับบรรดาบอสทั้ง 18 คนเพิ่มเติม หลังจากร่วมกันพิจารณาฐานความผิดอื่นอีก เช่น ข้อหาร่วมกันกระทำผิดฐานฟอกเงิน
ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาน่าจะทราบผลการถพิจารณาแล้ว ผู้เขียนปั่นต้นฉบับล่วงหน้าไม่ทราบว่าผลเป็นอย่างไร จึงขออนุญาตทำความเข้าใจ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องฟอกเงิน ขณะที่ยังมีคดีฉ้กโกงอื่นๆในช่วงนี้ ที่มีทั้งหลอกลงทุนจากบุคลากรทางด้านกฎหมาย และทางด้านโหราศาสตร์ ที่อาจจะนำไปสู่ฐานความผิดฟอกเงินด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ “การฟอกเงิน” (Money Laundering) คือ การเปลี่ยนแปลงเงิน หรือทรัพย์สินที่ได้มาจากากรกระทำความผิดมูลฐานให้กลายเป็นเงิน หรือทรัพย์สินที่ดูเสมือนหนึ่งว่าได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือพิสูจน์ไม่ได้ว่าได้มาโดยไม่ชอบ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การนำเงินออกไปนอกประเทศ การฝากเงินกับสถาบันการเงิน การตั้งบริษัท หรือกิจการขึ้นบังหน้าการซื้อขายที่ดิน การแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลอื่น การให้ผู้อื่นถือเงิน หรือทรัพย์สินไว้แทน
สาเหตุที่ต้องมีการฟอกเงิน เนื่องจากการที่เงินที่ได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมายไม่สามารถอ้างอิงแหล่ง
ทั้งนี้ แหล่งที่มาของเงินที่ต้องการฟอกนั้นจะมีแหล่งใหญ่ ๆ ด้วยกัน 10 แหล่ง คือ (1) เงินจากการค้ายาเสพติด (2) เงินจากวงการเมือง (3) เงินที่ได้จากการฉ้อโกงประชาชน (4) เงินจากวงการพนัน (5) เงินสินบน (6) เงินจากบริษัท (7) เงินส่วนตัวที่ต้องปกปิด (8) เงินจากกลุ่มเศรษฐี (9) เงินจากรัฐ (10) เงินนอกระบบอื่น ๆ (ที่มา:https://eportal.amlo.go.th/AmloPortal/knowledge-detail/Amlo-Article-(8).aspx)
ทั้งนี้ ความผิดฐานฟอกเงิน มี 28 ประเภท โดยประเภทที่ 3 กำหนดไว้ชัดเจนว่า เป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาหรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ( https://justicechannel.org/read/law-suggestion/anti-money-laundering2023)