หลังจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถูกวิกฤตคลิปเสียงดิสเครดิต ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในสมัยที่กำกับดูแลงานด้านความมั่นคง ทำให้ตกเป็นฝ่ายตั้งรับทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา แม้จะมีการดำเนินคดีฟ้องร้องกับผู้เผยแพร่ แต่ผู้คร่ำหวอดทางการเมืองก็วิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกันว่า ผลกระทบจากคลิปเสียงดังกล่าวนั้น ทำให้พล.อ.ประวิตรตกเป็นรองในสถานการณ์
ทว่าย้อนกลับไป ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวลือมาตลอดว่า มีคลิปเสียงที่จะใช้ในการโจมตีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการต่อรองทางการเมือง บนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ แต่จนกระทั่งวันนี้ ก็ยังไม่มีใครได้ยืนและได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าว จนมีคำถามว่า คลิปเสียงนั้นมีจริงหรือไม่
จนบางฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับ พล.อ.ประวิตร ปล่อยคลิปเสียงของพล.อ.ประวิตรออกมาก่อน และแม้ในคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่านายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ จาก 6 พฤติการณ์ ซึ่งในข้อที่ 1 ระบว่า “ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้อภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไป 1 ปี โดยพบว่าผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้ถูกร้องที่ 2 เป็นเครื่องมือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน สั่งการผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ รพ.ตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ระหว่างต้องโทษจำคุก ได้พักอาศัยอยู่ที่ห้องพักชั้นที่ 14 รพ.ตำรวจ เพื่อไม่ต้องรับโทษในเรือนจำแม้แต่วันเดียว โดยเป็นการฝ่าฝืนการรับโทษในเรือนจำตามพระบรมราชโองการ การกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 จึงเป็นการกระทำที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง อันอาจเป็นการกระทำที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และเป็นการกระทำที่อาจเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ส่งผลให้เกิดการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันฯ ในที่สุดได้
หลักฐาน ปรากฏในรายงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ซึ่งรวบรวมไว้แล้วว่านายทักษิณมีอาการเพียงพอจะกลับเข้ารับโทษหรือไม่”
ที่บรรดาสื่อมวนเฝ้าจับตาว่าจะมีการเปิดเผยคลิปเสียงของนายทักษิณออกมาบ้างหรือไม่ แต่กลับได้รับการเปิดเผยจากนายไพบูลย์ นิติตะวัน อ้างพยานบุคคลมากกว่าคลิปเสียง
อย่างไรก็ตาม ในจังหวะที่มรสุมการเมืองกำลังถาโถมนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จู่ๆ ก็มีคลิปเสียงของคดีดังเกี่ยวกับดิไอคอนกรุ๊ป ที่มีการพาดพิงไปถึงบุคคลภายในพรรคพลังประชารัฐด้วย ทำให้คดีบานปลายโยงกับบุคคลทางการเมือง แม้จะมีการชี้แจงไปในทิศทางเดียวกันกับกรณีคลิปเสียงของพล.อ.ประวิตรว่าเป็น AI
กระนั้น จะเป็นเหตุบังเอิญหรือไม่อย่างไร ที่ทำให้ทีมงานบ้านป่าของพล.อ.ประวิตร ต้องติดกับดักคลิปเสียงอีกครั้ง