โลกสะพรึงกับเหตุระเบิดทั่วเลบานอน ที่มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บ 2 พันกว่าราย โดยเกิดจากวิทยุติดตามตัวหรือ “เพจเจอร์” และเครื่องรับส่งวิทยุสื่อสาร หรือวอล์คกี้ทอล์คกี้ เพื่อมุ่งโจมตีกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์

เนื่องจากปัจจุบันเพจเจอร์ไม่ได้รับความนิย โดยมีโทรศัพท์มือถือเข้ามาแทนที่โดยยังมีการใช้เพจเจอร์ในบางประเทศและบางกลุ่มอาชีพเช่นบุคคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณด้วยคลื่นวิทยุ ซึ่งจะทำให้สามารถใช้งานได้แม้ระบบสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตล่ม

เพื่อป้องกันการถูกดักฟังจากศัตรู ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้สั่งการให้สมาชิกยกเลิกการใช้โทรศัพทย์มือถือ เปลี่ยนมาใช้เพจเจอร์ในการต่อต่อสื่อสารกันเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เอง

ที่น่าสงสัยก็คือ การจุดชนวนระเบิดเพจเจอร์นั้นทำได้อย่างไร

จากรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศ ระบุว่า มีการประกอบวัตถุระเบิดซุกซ่อนอยู่ในเพจเจอร์ตั้งแต่ตอนประกอบเครื่อง ทำให้มีการสืบสาวราวเรื่องว่าเพจเจอร์นี้มาจากแหล่งใด ก็พบว่ามาจากบริษัทแห่งหนึ่งในไต้หวัน  แต่มีการชี้แจงว่าบริษัทโกลด์อพอลโล ไม่ได้ผลิตเพจเจอร์รุ่นที่ระเบิดในเลบานอน พวกเขาอ้างว่าได้ขายสิทธิกับบริษัทอื่นในการผลิตอุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นบริษัทจากฝั่งยุโรป แต่ก็เอะใจอยู่เหมือนกันเมื่อเส้นทางการเงินที่ได้รับจากการขายสิทธินั้นโอนมาจากประเทศในฝั่งตะวันออกกลาง

ซึ่งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ออกแถลงการณ์เชื่อว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล และจะปฏิบัติการตอบโต้เพื่อลงโทษ

แม้กรณีที่เกิดขึ้นจะเป็นสงครามในอีกซีกโลก และไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง อาจมีบ้างที่หากแต่ในสถานการณ์ตึงเครียดที่ตะวันออกกลางที่ยกระดับและอาจลุกลามบานปลาย ที่นอกจากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลก

ทว่าวันนี้ เรื่องของการป้องกันอุบัติภัยร้ายแรง และการดูแลมาตรฐานของอุปกรณ์ โครงสร้างต่างๆในประเทศไทย เมื่อวาระของรัฐบาลชุดใหม่เวียนมาแล้ว เราอยากเรียกร้องให้รัฐบาลแพทองธาร ตรวจสอบมาตรการมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆอย่างเข้มข้น

เพื่อลดการสูญเสีย รวมทั้งการขันน็อตเข้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ให้เข้มงวดและเฝ้าระวังไม่ปฏิบัติชนิดขอไปที