วันเยาวชนแห่งชาติ เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญ เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทที่เยาวชนมีต่อการพัฒนาชุมชนและประเทศชาติโดยรวม ได้มีการเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2528 โดยองค์การสหประชาชาติกำหนดให้ปี พ.ศ. 2528 เป็นปีเยาวชนสากล
สำหรับประเทศไทยกำหนดให้วันที่ 20 กันยายน ของทุกปี เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ โดยคณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้เป็นวันที่ 20 กันยายน เพราะเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396) และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล (ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468) ซึ่งพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์นี้ ได้ขึ้นครองราชสมบัติในขณะที่พระองค์ยังทรงเป็นพระเยาว์
ก่อนหน้านี้ ในเดือนพฤษภาคม 2567 สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยได้นำเสนอมติสมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ปี 2566 มี 6 ประเด็นได้แก่ การศึกษา สุขภาพ สิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วม เศรษฐกิจ และความรุนแรง และยังได้ไฮไลต์ประเด็นสำคัญจากผลสำรวจความคิดเห็นของเด็กและเยาวชน ยกตัวอย่างเช่น
เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ไม่แน่ใจหรือไม่เห็นด้วยว่าหลักสูตรของโรงเรียนที่มีอยู่ในปัจจุบันสอดคล้องกับความต้องการของตนเอง เมื่อถามว่าหลักสูตรการศึกษาปัจจุบันช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 หรือโลกอนาคต หนึ่งในสามหรือร้อยละ 33 ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่แน่ใจ และอีกร้อยละ 7 รู้สึกไม่เห็นด้วย
เด็กและเยาวชนประมาณ 1 ใน 3 ไม่แน่ใจหรือไม่คิดว่าโรงเรียนปลอดภัยสำหรับเด็กทุกคน โดยร้อยละ 26 ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่แน่ใจว่าโรงเรียนของพวกเขาเป็นสถานที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็กและเยาวชนทุกคน และอีกร้อยละ 7 สะท้อนว่าโรงเรียนยังไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยหรือเป็นมิตรกับทุกคน
ร้อยละ 7 ของเด็กและเยาวชนที่ตอบแบบสอบถามสะท้อนว่ามีความคิดอยากฆ่าตัวตายในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยกลุ่ม LGBTIQ+ ตอบข้อนี้มากที่สุดถึงร้อยละ 18 หรือเกือบ 3 เท่าของค่าเฉลี่ย นอกจากนี้เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ไม่แน่ใจว่าจะไปขอรับบริการสุขภาพจิตได้ที่ไหน
ปัญหาความรุนแรงในโลกออนไลน์เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญของเด็กและเยาวชนยุคปัจจุบันกำลังเผชิญอยู่ โดยร้อยละ 55 ของเด็กและเยาวชนที่ตอบแบบสอบถามมองว่า การกลั่นเเกล้งเเละล้อเลียนทางอินเตอร์เน็ตเป็นปัญหาความรุนแรงออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดรองลงมาคือปัญหาการพนันออนไลน์ (ร้อยละ 44) เเละอันดับที่สามคือการติดเกม (ร้อยละ 32) นอกจากนี้เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ไม่แน่ใจว่าจะไปขอความช่วยเหลือได้ที่ไหนหากประสบปัญหาในโลกออนไลน์
เด็กและเยาวชนที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยังคงรู้สึกว่าผู้ใหญ่ในสังคมไม่ได้รับฟังเสียงของพวกเขา และนำเสียงของพวกเขาไปพิจารณาอย่างจริงจังมากนัก โดยให้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 5 จาก 10 คะแนน
จากปัญหาที่สภาเด็กฯสะท้อนมานั้น หวังว่ารัฐบาลแพทองธาร จะได้นำเสียงสะท้อนเหล่านี้ มาหาแนวทางแก้ไขปัญหา ผลักดันและขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเยาวชน และประเทศชาติ