ครม.ใหม่ ไม่มีเวลาให้ฮันนีมูน ให้ “รัฐมนตรีป้ายแดง” ทั้งหลายได้ใช้เวลาชื่นชม “ตำแหน่ง” ที่เพิ่งได้รับกันไปหมาด ๆตามที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ได้เคยบอกกับสื่อเอาไว้ก่อนหน้านี้  ส่วนหนึ่งเพราะ “พรรคเพื่อไทย” ภายใต้การขับเคลื่อนของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯคนที่ 23 ย่อมประเมินได้ไม่ยากว่า ครม.ใหม่ กำลังถูก “ถล่ม” จากทั่วสารทิศมากแค่ไหน

เสียงโจมตี ให้ฉายา “ครม.สืบสันดาน” คือการสะท้อนภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ที่ชัดเจนมากกว่าครั้งไหน ๆ  ไม่เฉพาะตัว นายกฯอิ๊งค์ เอง แต่ยังไล่เรียงไปถึงรัฐมนตรีอีกหลายรายที่ต้องโดดลงมารับตำแหน่ง ที่รักษา “ที่นั่ง” เอาไว้ตามโควตา

ล่าสุด นายกฯแพทองธาร ถึงกับอุทาน ว่าครม.สืบสันดาน เป็นคำที่แรงไป แต่เชื่อเถอะว่า นี่คือ “ยกแรก” เท่านั้นที่ผู้นำรัฐบาลจาก “ค่ายชินวัตร” จะต้องเผชิญต่อไปกันอีกยาว จนกว่าจะอยู่ครบเทอม หรือมีเหตุให้ต้อง “ไปก่อน”

การจัดทัพครม. “แพทองธาร 1” จบลงไปแล้วในเบื้องแรก ฝ่าฟันกันจนแต่งตั้งบุคคลเข้าประจำกระทรวงได้ครบถ้วนทั้ง 36 ตำแหน่ง และจากนี้ไป คือการเข้าสู่โหมดของการบริหารนโยบายรัฐบาล ที่ว่ากันว่านี่คือ “โอกาส” ที่ พรรคเพื่อไทยและ ทักษิณ จะต้องแสดงฝีมือเพื่อทวงคืนความเชื่อมั่น ในฐานะมือแก้เศรษฐกิจ ของประเทศที่เวลานี้ต่างเดือดร้อนกันถ้วนหน้า

ทั้งจากปัญหาหนี้ครัวเรือน ไปจนถึง “หนี้นอกระบบ” ยังไม่นับรวม “ความชัดเจน” การเดินหน้าโครงการแจกเงินหมื่นผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งรัฐบาลเองถูก “ฝ่ายค้าน” ท้วงติงกลางสภาฯด้วยกันหลายเรื่อง ในการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2568

อย่างไรก็ดีในการประชุมครม.นัดพิเศษ นัดแรกที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.นี้ มีความเป็นไปและมีแนวโน้มว่า แต่ละพรรคร่วมรัฐบาล จะใช้ “จังหวะ” นี้ยื่นเสนอ “นโยบายพรรค” ของตนเองที่เคยประกาศเอาไว้ “บีบ” ให้พรรคเพื่อไทย นำเอาใส่เป็น “นโยบายรัฐบาล” ร่วมกัน โดยเฉพาะนโยบายกัญชา ของพรรคภูมิใจไทย ที่ทำเอา พรรคสีน้ำเงิน “เสียศูนย์” มาแล้วในช่วงรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน

น่าสนใจว่า การมีเสียงสส.ในมืออย่างท่วมท้น ของฝ่ายรัฐบาล เกิน 300 เสียงในสภาฯ อาจเป็นตัวเลข ที่พร้อมจะ “พลิกผัน” ได้ทุกเมื่อ เพราะแม้จะลงเรือลำเดียวกันแล้ว แต่ย่อมไม่ได้หมายความว่า ทุกคน ทุกพรรคจะยอมให้ “ทักษิณ” ควบคุมอยู่ฝ่ายเดียว !