การออกมาให้ข้อมูลจาก “สมชาย แสวงการ” อดีตวุฒิสมาชิก  ว่ามีบุคคลที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรีในครม.ใหม่ “แพทองธาร 1” กำลังติดปัญหา ว่าด้วย “คุณสมบัติ” ด้วยกันถึง “11 ราย” นั้นได้สร้าง “แรงกระเพื่อม” และ “ความหวั่นไหว” ต่อ “พรรคเพื่อไทย” ไปจนถึง “เจ้าของบ้านจันทร์ส่องหล้า” ไม่น้อย !

เมื่อวันที่ 1 ก.ย.67 ที่ผ่านมา สมชาย โพสต์เฟซบุกส่วนตัวระบุว่า " ข่าวดี! ครม.อิ๊ง 1 ตรวจละเอียดยิบ รมต.ต้องสุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่ประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ข่าวลืออื้ออึงว่าติดปมตั้ง 11 ทั้งคดีใน ป.ป.ช.  อัยการ ศาล ฯลฯ จะกล้าลุยตั้งก่อน ไปตายเอาดาบหน้า? #นักการเมืองดีหายากนักหรือไง"

ไม่ว่าเรื่องนี้จะจริงหรือไม่ เพราะโฉมหน้าครม.ใหม่ ยังไม่ปรากฏชัดเจนว่าทุกอย่าง “ลงตัว” หมดแล้ว แต่สิ่งที่ตามมาคือภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่า ครม.ใหม่ ที่อยู่ในการกำกับควบคุมโดย “ แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯคนที่ 31 กำลังเจอกับ “บททดสอบ” ทางการเมืองจาก “ฝ่ายตรงข้าม” ที่โถมเข้าใส่ ต้อนรับก่อนที่เจ้าตัวจะเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ดีการออกมาโยนประเด็นว่าด้วย 11 รายชื่อที่ติดปัญหา จาก สมชาย ซึ่งเป็น 1 ในกลุ่ม40อดีตสว.ที่เคยยื่นให้ถอดถอน “เศรษฐา ทวีสิน” จนตกเก้าอี้นายกฯ นั่นเอง ดังนั้นเมื่อการเคลื่อนไหวจาก “โจทก์เก่า” ขยับเข้าขวางนายกฯแพทองธาร เขย่าความเชื่อมั่นกันตั้งแต่เริ่มต้น

แต่ดูเหมือนว่าทางฝั่งพรรคเพื่อไทย และ นายกฯแพทองธาร เลือกที่จะแสดงความมั่นใจเพื่อเรียกความเชื่อมั่นว่า พวกเขาไม่ได้หวั่นไหว ล่าสุดนายกฯ ออกมายืนยันว่า โผครม.นิ่งแล้ว คาดว่าจะสามารถนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ไปภายในสัปดาห์นี้

ขณะที่ “มือกฎหมาย” ของพรรคเพื่อไทย อย่าง “ชูศักดิ์ ศิรินิล” สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุในประเด็นนี้ว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติ ทุกรายชื่อ ทั้งนี้ในเรื่องที่ว่าด้วย “จริยธรรม” เรื่องความซื่อสัตย์ เป็นที่ประจักษ์ ตามแนวที่ศาลรัฐธรรมนูญ เคยชี้เอาในคดีถอดถอนเศรษฐา ที่ผ่านมานั้น ต้องถือว่า มีคำวินิจฉัยที่ชี้ขาดชัดเจน

ดังนั้นในกรณีของการเสนอรายชื่อ ครม.ใหม่ “แพทองธาร1” หากจะใช้แนวคดีของ “พิชิต ชื่นบาน” ที่เศรษฐา เคยแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีจนเกิดปัญหานั้น พรรคเพื่อไทย เชื่อว่าจะแตกต่างกัน เพราะในรายของพิชิต เคยถูกคำสั่งศาลฎีกา ชี้ออกมาแล้วว่าละเมิดอำนาจศาล ถูกศาลฎีกาสั่งจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เมื่อปี 2551 “คดีถุงขนม2ล้าน”  อีกทั้งยังถูกลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จึงเป็นเสมือน “สารตั้งต้น” สำหรับในรายพิชิต

แต่ในกรณีของว่าที่รัฐมนตรีใหม่ “แพทองธาร1”  ทั้งพรรคเพื่อไทยยังมั่นใจว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาซ้ำรอยพิชิต  เนื่องจากแม้จะมีรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีหลายคนที่เป็นข่าว แต่ต้องแน่ใจว่ายังไม่มีรายใดที่ถูกคำพิพากษาของศาลเป็นเด็ดขาดและที่สำคัญไปมากกว่านั้น การตั้งครม.ใหม่ ยิ่งล่าช้ามากเท่าใด ยิ่งจำทำให้สถานการณ์ทางการเมืองสำหรับ แพทองธาร ยิ่งเป็น “ลบ” มากขึ้นทุกที !