ยิ่งการตั้งครม.ชุดใหม่ ล่าช้าออกไปมากเท่าใด ยิ่งทำให้สถานการณ์ทางการเมืองอยู่ในภาวะ “ไม่ปกติ” มากขึ้นเท่านั้น !


 ทั้งความเคลื่อนไหวในแนวรบฝั่งรัฐบาลที่ยังอีรุงตุงนัง  เกิดศึกในฟาดกันเองในแต่ละพรรคการเมืองที่ต้องเข้าร่วมรัฐบาล แต่รอ “เทียบเชิญ” อย่าง “พรรคประชาธิปัตย์” ขณะที่ “พรรคพลังประชารัฐ” เองนอกจากจะเปิดศึกกันภายในพรรค ระหว่างขั้วของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  หัวหน้าพรรค กับขั้วของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมว.เกษตรฯและเลขาธิการพรรค แล้ว ยังปรากฏว่าการทวงเก้าอี้ “รัฐมนตรี” ให้กับ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.ทรัพย์ฯ กลายเป็น “วาระร้อน” ที่ต้องคุยกันผ่านสาธารณะอีกด้วย 


 อย่างไรก็ดี  การออกมาขยับเกม “ตั้งรัฐบาล”  โดยมี “พรรคเพื่อไทย” เป็นแกนนำนั้น ทำให้ยิ่งเห็นได้ว่าผู้กำหนดเกม คือ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ผู้มีบารมีเหนือพรรคเพื่อไทย ที่ว่ากันว่าได้อาศัยจังหวะนี้ “ชำระแค้น” กับ “ศัตรูเก่า” พังไปทีละพรรคอีกด้วย 


 ขณะที่ขั้วการเมืองปีกรัฐบาลกำลังวุ่นวายอยู่กับการตั้งรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลานานมากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่า “พรรคประชาชน” พรรคเจนเนอร์เรชั่นที่สามของพรรคอนาคตใหม่ที่เพิ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เป็นพรรคการเมืองไปเรียบร้อยแล้วนั้นอาจต้องเข้าสู่โหมด การต่อสู้ที่โดดเดี่ยว ตามลำพัง 


 เมื่อพรรคเพื่อไทย ใช้ “เก้าอี้รัฐมนตรี” ลงมาดึงดูดใจ “พรรคฝ่ายค้าน” ให้ไปเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคไทยสร้างไทย เองเท่ากับว่า หากการเจรจาทุกอย่างลงตัว พรรคเพื่อไทยจะได้ พันธมิตรเพิ่ม เข้ามาเสริมเสถียรภาพให้กับรัฐบาล และแพทองธาร ลูกสาวของเขาเอง 


 หมายความว่า พรรคประชาชน จะต้องยืนอยู่ตามลำพังในฐานะ “ฝ่ายค้าน” ที่จะขาดทั้ง “อำนาจรัฐ” และ “กระสุน”  ที่ต้องลุ้นคือการ “สร้างกระแส” ให้กลับมาแข็งแกร่งเหมือนกับที่ “พรรคก้าวไกล” เคยกวาดคะแนนเสียงจาก “ด้อมส้ม” จนทำให้ชนะเลือกตั้ง เมื่อปี 2566 อย่างถล่มทลายมาแล้ว 


 แต่ปัญหาของพรรคประชาชน ในวันนี้ เมื่อขาด “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล หัวเรือใหญ่ไปแล้วจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10ปี ขณะเดียวกัน “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน แม่ทัพคนใหม่ ยังไม่ “ฮอท” มากพอ เว้นแต่จะรอพิสูจน์ฝีมือในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสภาฯ 


 ยิ่งเมื่อวันนี้เวทีการเมืองมีผู้เล่นอย่างทักษิณ ลงมาเปิดหน้าเต็มตัว แทบไร้คู่แข่งที่สูสี จากพรรคประชาชน  จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะกล้าประกาศ พรรคเพื่อไทยพร้อมยึดสนามเลือกตั้งในปี 2570  เมื่อวันโวชว์วิสัยทัศน์  เว้นแต่ แพทองธาร และพรรคเพื่อไทย จะสะดุดติดบ่วงคดีความ จากคำร้องเรื่องใด เรื่องหนึ่งที่กำลังประเดประดังกันเข้ามา !