ชัยชนะที่อยู่ในมือ “พรรคภูมิใจไทย” จากการเลือกสว. ตามรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่ทำให้สภาสูงจากเดิม ผ่านการทำคลอดโดย “คสช.” มาสู่ “สว.สีน้ำเงิน” ได้กลายเป็น “ทุกขลาภ” ไปแล้วชั่วข้ามคืน

เมื่อเวลานี้ ทั้งพรรคภูมิใจไทยและ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ตกอยู่ในเป้าสายตา ทุกคนกำลังโฟกัสตรงมาในฐาน “ศูนย์อำนาจใหม่” ที่สามารถยึด วุฒิสภาเอาไว้ได้ด้วยตัวเลขเกินครึ่ง อันมีสว.200 คน

กระแสการพูดถึง “ดีลใหม่” ด้วยสมการใหม่ ที่ว่าพรรคภูมิใจไทย เตรียมหันไปจับมือกับ “พรรคก้าวไกล”หลังจากที่ “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม”  ประเมินแล้วว่า “เพื่อไทย” วันนี้มีแต่อ่อนแรงลง และยังส่อแววว่า อาจไม่ใช่ “ตัวเลือก” ที่ดีนัก สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า หาก “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ประคองรัฐบาลจนอยู่ไปครบเทอม

“ไพศาล พืชมงคล” นักกฎหมายอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุกส่วนตัวเมื่อวันที่ 1 ก.ค.67 ชี้เบาะแส บางช่วงบางตอน ระบุว่า “ ดีลพลิกฝ่ายอนุรักษ์ตื่น ขืนรบดะทั้งส้ม-แดง มีแต่เจ๊งลูกเดียว

จับตาอนุทินขึ้นแป้นนายกฯ!!! สภาพดีลใหญ่พลิก และมีทีท่าว่าฝ่ายอนุรักษ์ไม่สามารถประสาน หรือเดินคู่ไปกับพรรคเพื่อไทยได้อีกแล้ว

ให้จับตาดูเศรษฐา ถูกสอยวันที่ 10 กรกฎาคม จากนั้นดันอนุทินขึ้นเป็นนายกฯ จับมือก้าวไกล ฟื้นประชาธิปไตย ฟื้นเศรษฐกิจและความสุจริตในการปกครองประเทศ ก้าวข้ามความขัดแย้งนิรโทษกรรมทุกฝ่ายเดินหน้าประเทศไทย”

แต่ล่าสุด “อนุทิน” ออกมาปฏิเสธชัดเจนว่า เขาเองพอใจกับบทบาทที่เป็นอยู่ในวันนี้ ไม่มีความต้องการที่จะได้ดิบได้ดีไปกว่านี้

 “ปั่นกันสนุกเลย แต่คนที่ตายคือผม และผมก็ไม่รู้จักท่าน ข้อเท็จจริงตามที่ท่านพูดผมก็ไม่เคยรู้เรื่อง และผมก็ไม่มีความกระตือรือร้นใดๆ อีกทั้งผมเองทำงานในรัฐบาลชุดนี้ ก็มีความตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มที่ รับใช้ประชาชน สนองนโยบายนายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) อยู่แล้ว ไม่มีอะไรเดือดร้อนที่จะได้ดิบได้ดีอะไรไปมากกว่านี้ ผมมีวันนี้ได้ก็มีความพึงพอใจอยู่แล้ว”

และเหนืออื่นใด สิ่งที่อนุทิน ตอกฝาโลงปิดดีลพิสดาร สูตร “ภูมิใจไทย+ก้าวไกล” คือการยก “มาตรา 112” ว่านี่คือ “เงื่อนไข” ที่ดีลที่ว่านั้นไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะภูมิใจไทยประกาศจุดยืน ชัดเจนมาตั้งแต่แรก ว่า “ไม่แตะ ม.112”

อย่างไรก็ดี การดึงพรรคก้าวไกล เข้ามาอยู่ใน สมการการเมือง  ภายใต้การสลายความขัดแย้งนั้น ดูเหมือนว่ามีแต่จะทำให้พรรคภูมิใจไทยและตัวอนุทิน ตกอยู่ในสภาพ “ตำบลกระสุนตก” และอาจทำให้ “พรรคร่วมรัฐบาล” โดยเฉพาะ พรรคฝั่งอนุรักษ์นิยม ไม่ไว้ใจ และนอกจากนี้อย่าลืมว่า “พรรคภูมิใจไทย” ยังมี “ทางให้เดิน” มีทางให้เลือก มากกว่าการจับมือกับพรรคก้าวไกล แล้วพาตัวเองเข้าสู่ “ความเสี่ยง” โดยใช่เหตุ !