เริ่มต้นเดือนกรกฎาคม เป็นอีกเดือนหนึ่งที่มีกิจกรรมทางการเมืองที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเส้นทางนายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน และอนาคตของพรรคก้าวไกล

ถนนทุกสายมุ่งสู่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล กรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้อง) มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคผู้ถูกร้องตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)

ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาต่อไปในวันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2567 และกำหนดให้คู่กรณีเข้ามาตรวจพยานหลักฐานในวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567

ส่วนในคดีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 40 คน ยื่นให้ศาลวินิจฉัยถอดถอนนายเศรษฐา ออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า ผู้ถูกร้องที่ 2 ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริตและมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาให้หน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นและจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานตามประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและกำหนดและพิจารณาต่อไปในวันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567

ซึ่งต้องติดตามว่าทั้ง 2 คดี จะถึงที่สุดเมื่อไหร่ แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้บรรยากาศการต่อสู้ทางการเมืองอยู่ครรลอง ตามกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ แม้จะยังไม่จบแต่ก็สงบลงชั่วคราว