ความพยายามของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ในมิติการเมือง คือการพลิกฟื้นความแข็งแกร่งให้กับ พรรคเพื่อไทย ให้คืนกลับมาได้อีก เหมือนในวันวาน แม้นาทีนี้ตัวทักษิณ เองยังพัวพันกับคดีม.112 มีวาระให้เขาเองยังต้องสู้ต่อ
แต่หากทักษิณ ไม่มีพรรคเพื่อไทย เอาไว้ใช้เป็น กลไก ในมือเพื่อต่อรองอำนาจทางการเมือง จะยิ่งทำให้สถานการณ์ของตนเองและครอบครัว อยู่ในสภาพถูกต้อนให้เข้ามุมอับไปโดยปริยาย
การเดินสายของทักษิณเพื่อปลุกเร้าพลังของ คนเสื้อแดง ตลอดจน กองเชียร์ และบรรดา บ้านใหญ่ ตามหัวเมืองต่างๆที่เคยร่วมรบทางการเมืองด้วยกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งก่อตั้งพรรคไทยรักไทย มาถึงพรรคพลังประชาชน และในปัจจุบันถึงพรรคเพื่อไทย ให้กลับเข้าสู่ชายคาเดิม ถือเป็นงานใหญ่ และไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทักษิณ อีกต่อไป !
การเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ค.2566 ที่ผ่านมา คือคำตอบที่ชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยไม่เพียงแต่จะถูก พรรคก้าวไกล ช่วงชิงความนิยมออกไปจากมือเท่านั้น แต่ยังดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยนั้นอยู่ในสภาพที่อ่อนล้า เต็มที การปรากฏตัวของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะ แคนดิเดตนายกฯ ในครั้งนั้น ทำเอาสังเวียนการเมืองสะเทือน
และจากวันนั้น จนถึงวันนี้ แท้พรรคเพื่อไทย ปรับทัพ ชู อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวพรรคเพื่อไทย ที่หวังจะเข้ามา กวาดคะแนน ดึงความเชื่อมั่น ก็ยังไม่เห็น ผลลัพธ์ ที่น่าพอใจ และแม้ ทักษิณ ออกหน้าเดินสายไปตามจังหวัดต่างๆ ก็ยังไม่อาจ การันตีได้ว่าหากการเลือกตั้งมีขึ้นเร็วๆนี้ พรรคก้าวไกล จะไม่กุมชัยชนะ แซงหน้าพรรคเพื่อไทย อย่างถล่มทลาย
ล่าสุดการที่ทักษิณ ไปงานวันเกิด สมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีจังหวัดนนทบุรี พร้อมทั้งประเทศ ทวงคืน เก้าอี้สส.เมืองนนท์ หลังจากที่ผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุดพรรคก้าวไกลเข้ามาตีจนทัพเมืองนนท์แตกกระเจิง กวาดสส.ยกจังหวัด
สถานการณ์การต่อสู้ทางการเมืองสำหรับพรรคเพื่อไทย ในวันที่มีอดีตนายกฯทักษิณ ดูเหมือนว่ายังไม่มี ความได้เปรียบ ที่จะเป็นความหวังให้กับพรรคได้อย่างแท้จริง ความพ่ายแพ้ที่เมืองนนท์ จากการเลือกตั้งสส.เมื่อปี 2566 คือจุดเริ่มต้นสำหรับศึกเลือกตั้งรอบหน้า ที่ทักษิณ ยังหาทางแก้เกมไม่ออก !